วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

[NC] #จิ๋วแต่ไจ๋ CHAPTER 25

 

25

 

#จิ๋วแต่ไจ๋

 

        ไจ๋ไม่รู้แล้วว่าจะอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ว่าอย่างไรดี เขาไม่รู้แล้วจริงๆ

        อากาศในห้องควรจะเย็นสบายอย่างที่คิดเอาไว้ แต่กลับร้อนรุ่มไปหมดจนทำตัวไม่ถูก เหงื่อซึมออกตามผิวกาย เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูกลายเป็นของน่าหงุดหงิดไปเสียแล้ว

        จุดเริ่มต้นของบรรยากาศภายในห้องที่เปลี่ยนไป...น่าจะเริ่มต้นมาจากจูบในตอนนั้น จูบที่ร้อนแรงที่สุดเท่าที่ไจ๋เคยได้รับ จูบแรก จากความรักครั้งแรกของเขาเอง

        “อ..อื้อ”

          เสียงประหลาดหลุดออกมาจากริมฝีปากของไจ๋ครั้งแล้วครั้งเล่า มึนเบลอไปหมดด้วยจดจ่ออยู่แต่กับการรับสัมผัส ไล่ตามอีกคนให้ทัน ลมหายใจของไจ๋ร้อนผ่าวไม่ต่างอะไรกับร่างกายของเขาในตอนนี้ ตรงหน้าเป็นเงาดำใหญ่คร่อมทับลงมา ขยับป้วนเปี้ยน แตะไต่ร่างกายตามใจ ราวกับกำลังสอนบทเรียนบทใหม่ให้ไจ๋ได้เรียนรู้ พออ้าปากเล็กน้อย เปิดช่องโหว่เพียงนิด ก็ถูกเรียวลิ้นร้อนชื้นแทรกสอดเข้ามา พัวพันจนไจ๋ยิ่งคิดอะไรไม่ออก สองมือคล้องลำคอของอีกคนอย่างอ่อนแรง ตัวเหลวไปกับที่นอน จนต้องถูกประคองให้นอนลงไปกับเตียงเชื่องช้า เส้นผมสีดำแผ่สยายไปกับมัน ดวงตาของไจ๋หวานเชื่อมไปด้วยแรงอารมณ์ ชวนให้รู้สึกชวนมองกว่าครั้งไหนๆ

        “โช...โช พี่ไจ๋หายใจไม่ทัน อึก...”

        เจ้าของชื่อยอมผละริมฝีปากออกให้ตามคำขอ พี่ไจ๋คนเก่งนอนหายใจสะดุดอยู่ใต้ร่าง สีหน้าราวกับคนโดนกลั่นแกล้งรังแกกลับทำให้โชกุนต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสัมผัสอย่างอ่อนโยนและแผ่วเบา ทั้งๆ ที่ภายในใจกลับอัดแน่นไปด้วยความตื่นเต้น ข่มใจค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

        แผนยอมอ่อนโยนให้ดูเหมือนจะได้ผล ไจ๋กลับมาเคลิบเคลิ้มตามอีกครั้งอย่างว่าง่าย ปรับเอียงใบหน้าให้เล็กน้อยด้วยเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับโชกุน ลมหายใจร้อนๆ กลับเจือกลิ่นหอมเย็นอันเป็นกลิ่นเฉพาะของโชกุน สองมือเลื่อนลงต่ำ ขยุ้มเสื้อแถวๆ หน้าท้องตัวเองเอาไว้แน่น คล้ายกับกำลังอดทนกับความร้อนที่เริ่มไต่ลงไปด้านล่างนั่น ในตอนนั้นเองที่โชกุนลืมตาขึ้น กดสายตาลงเล็กน้อย มองดูไจ๋ที่กำลังบิดกายเร่าๆ ราวกับกำลังอึดอัดและทรมานจากปฏิกิริยาบางอย่างของร่างกาย

        เขาช้อนตาขึ้นมองดูคนพี่ ผละออกเล็กน้อย ปล่อยให้ไจ๋ได้พักเสียบ้างหลังจากตะโบมจูบนัวเนียนมาเกือบสิบนาที มือหนาบีบเค้น ลูบไล้ไปทั่วร่างกายของไจ๋ เสื้อผ้าที่หลวมโคร่งอยู่แล้วจึงเขยื้อนจนเผยให้เห็นผิวกายใต้ร่มผ้าอย่างหมิ่นเหม่ ไจ๋นอนกำมือแน่น ใจสั่นกับการที่โชกุนค่อยๆ ถอยร่นลงไปด้านล่าง จับเรียวขาทั้งสองข้างที่ตั้งชันอยู่ให้แยกออกจากกัน หัวใจสั่นโครมคราม เสี้ยวหน้าของโชกุนในตอนนี้ดูร้ายกาจและอันตรายกว่าปกติเป็นเท่าตัว

        และวินาทีที่โชกุนทำท่าจะดึงกางเกงนอนออกไป ไจ๋ก็เลื่อนมือสั่นๆ ไปจับไหล่น้องเอาไว้ทันที

        “โช...โชจะทำแบบนั้นเหรอ”

        “กลัวเหรอ”

        “อื้อ มัน...เร็วไป พี่ไม่พร้อมจริงๆ”

        “ใจเย็นๆ”

           โชกุนเอ่ยปลอบเสียงเบา แนบใบหน้าลงกับขาข้างหนึ่ง ฝ่ามือใหญ่ลูบสะโพกของไจ๋ไปมา หวังว่าจะช่วยให้ไจ๋ใจเย็นลงมาบ้าง ต้องทวนตัวเองเอาไว้เสมอว่าไจ๋กำลังตกใจ รับมือไม่ถูก ตั้งตัวไม่ทัน เขาเองก็ยอมรับว่ารุกรุนแรงเกินไป คนอย่างไจ๋ก็คงช็อกเป็นธรรมดา จึงเลือกที่จะลูบไปมาเบาๆ หวังช่วยให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย ซึ่งก็เป็นดังคาด มือที่เคยกำเสื้อจนแน่นคลายลงมาบ้างแล้ว

        “พี่ไจ๋ขอโทษ...แต่พี่ไจ๋ยังไม่พร้อมครับ ขอโทษนะ”

        “ไม่ต้องขอโทษหรอก มันไม่ใช่ความผิดของพี่ ทางนี้ต่างหากที่ต้องขอโทษ ใจร้อนเอง”

           “ไม่...คือ เป็นพี่ไจ๋เอง พี่ไจ๋ตามไม่ทันเอง”

        “พี่ไจ๋”

        “อื้อ...”

        “พี่ไจ๋ครับ”

        “พี่ไจ๋ฟังอยู่”

        “ชอบกันจริงๆ ใช่ไหม”

        “...”

        “แค่อยากมั่นใจ”

        “พี่พูดไปแล้ว...น้องโชต่างหากที่ไม่เคยบอกอะไรพี่เลย”

        “พี่”

        “พี่ไจ๋ก็กลัว”

        “...”

        “พี่ก็กลัว...ถ้าเกิดเราทำแบบนี้แล้วน้องโช...”

        “โชชอบพี่ไจ๋”

           “...!”

        “ชอบพี่ไจ๋มากๆ”

        “...”

        “ชอบมากจริงๆ”

            ไจ๋กลับมาอึ้งอีกรอบที่ได้ยินคำสารภาพพวกนั้นออกมาจากปากของโชกุนจริงๆ ใจที่เคยสงบไปกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงอีกครั้งจนได้ วันนี้เจอแต่เรื่องชวนช็อก ชวนตกใจไปไม่รู้ตั้งกี่เรื่องแล้ว ต่อให้ไจ๋จะซื่อ จะตามคนไม่ค่อยทันไปบ้าง แต่เพราะเรื่องนี้ บางทีโชกุนก็ทำมันจนเกินเลยกว่าปกติ ชวนให้คิดไปไกลหมื่นแสนล้านอย่าง แต่บางทีก็ไม่พูดอะไร ไม่ทำอะไรชัดเจน คลุมเครือจนไจ๋กลัว สุดท้ายก็เลยยังพะว้าพะวงอยู่อย่างนั้น

        แต่ครั้งนี้...พวกเขาทั้งคู่ต่างก็แสดงความชัดเจนออกมาพร้อมกันแล้ว

        โชกุนเงยหน้า มองดูสีหน้าของไจ๋ ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดไปเองหรือเปล่า รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายกำลังยิ้มเล็กน้อย พอรู้ตัวว่าถูกจ้องอยู่ก็รีบดึงมือข้างหนึ่งขึ้นไปปิดหน้าตัวเองเอาไว้อย่างเขินอาย โชกุนจึงหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ บรรยากาศจึงผ่อนคลายขึ้นมาทันที โชกุนขยับกลับขึ้นไปหา ดึงมือของไจ๋ออกแล้วจูบลงบนริมฝีปากเบาๆ ไม่ได้รุกล้ำอะไร ก่อนจะแตะค้างเอาไว้ที่กลางหน้าผากของไจ๋อีกสักพัก จ้องมองดวงตากลมโตคู่นั้นด้วยความรักใคร่

        “เจ๋งมันมาขวางก็ไม่ยอมแล้วนะ”

        “พี่ไจ๋จะพูดกับน้องเจ๋งให้นะครับ”

        “จริงนะ”

        “อื้อ”

        “พูดแล้วนะ”

        “ครับ พี่ไจ๋จะพูดกับน้องเจ๋งให้อีกแรง”

        “มันต้องโมโหมากแน่ๆ ที่โชกลายเป็นแฟนพี่มัน”

        “ก็...นะ...น้องโช น้องโชๆๆๆๆ”

        “เขินอะไร”

        “ฮื่อ”

        “แล้วจะให้เป็นเพื่อนไอ้เจ๋งต่อเหรอ จูบกันจนลิ้นเปื่อยเนี่ย”

        “พอแล้ว พอแล้วครับ”

        ไจ๋แทบจะทนไม่ไหวอยู่รอมร่อ ไม่รู้ว่าโชกุนคนขี้แกล้งกลับมาตั้งแต่เมื่อไร พูดจาอะไรออกมาแต่ละคำก็ทำเอาเขากระดากอาย เก้อเขินไปหมดจนทำตัวไม่ถูก แอบได้ยินเสียงน้องหัวเราะด้วย! ท่าทางของพี่ไจ๋ตอนนี้คงจะดูน่าตลกมาสินะในสายตาของโชกุนน่ะ

    ไจ๋คิดแบบนั้น แต่สำหรับโชกุนแล้ว มันกลับกันเลยต่างหาก

        พี่ไจ๋ในตอนนี้....น่ารักที่สุดแล้วล่ะ

        “พี่ไจ๋”

        “อื้อ...”

        “รู้ใช่ไหมว่าพี่จะปล่อยมันไว้แบบนี้ไม่ได้”

        อุตส่าห์ว่าจะลืมๆ มันไปแล้ว แต่โชกุนก็ยังลากกลับมาให้ได้อายกับประเด็นเดิมๆ ไจ๋นอนหน้าแดง ตัวแดงแจ๋ ร้อนไปหมด ก้มลงมองดูกลางกายตัวเองเล็กน้อย เป้ากางเกงตัวนอนของโชกุนนูนขึ้นมาจนทำให้รู้สึกอาย กำลังจะหนีบขาหนี แต่ก็ถูกมือหนาจับแยกออกอีกครั้ง พลิกตลบกันไปมา ยื้อยุดกันอยู่ไม่นาน กางเกงตัวนั้นก็ถูกเจ้าของทวงคืน อากาศเย็นๆ จากเครื่องปรับอากาศแวะเข้ามาทักทายผิวกายทันที

        “พ..พี่ไจ๋ทำเอง พี่ไจ๋ทำเองครับ”

        “เคยทำ?”

        “...”

        “จริงเหรอ”

        พูดอะไรออกไปก็เหมือนกับไจ๋กำลังขุดหลุมฝังตัวเองไปเสียหมด แค่นอนอ้าขาให้โชกุนก้มลงมองดูเจ้านั่น แค่นี้ก็ยังน่าอับอายไม่พอหรืออย่างไรกัน!

        ก็...ไม่ใช่ว่าไม่เคย มันก็ต้องมีบ้าง แต่ก็ลองแค่ไม่กี่ครั้งในชีวิต โตมาจนอายุป่านนี้แล้ว มันก็ต้องเคยดูหนังผู้ใหญ่ เคยมีอารมณ์บ้างเป็นปกติตามวัยอยากรู้อยากลอง เคยแตะต้องมันอยู่ พี่ไจ๋ก็เรียนสุขศึกษามาเหมือนกันนะ!

        “พี่ไจ๋บอกว่าจะทำเองใช่ไหม”

        “...”

        “งั้นทำ”

        “ลุกสิ...พี่จะไปได้ไปเข้าห้องน้ำ”

        “ไม่”

        “...”

        “ทำมันตรงนี้”

        “...”

        “จะดู”

        ใครก็ได้ ใครก็ได้ เรียกรถพยาบาลให้พี่ไจ๋ที พี่ไจ๋ว่าพี่ไจ๋ไม่ไหว พี่ไจ๋จะหัวใจวายตายอยู่แล้ว จะชักตายคาเตียงอยู่แล้ว

        โชกุนคนขี้แกล้งกลับมาประทับร่างอีกครั้ง ใช้แววตาเจ้าเล่ห์จ้องมองกัน จับขาของไจ๋เอาไว้ราวกับไม่อยากให้ลุกหนีไปไหนเพราะกลัวจะไม่ได้เห็นอะไรที่ตัวเองอยากจะเห็น ไจ๋โดนแกล้งครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่เคยเข็ด ไม่เคยจำ เรื่องพวกนี้ยังตามโชกุนไม่ทันอยู่ร่ำไป นี่เป็นครั้งแรกเลยที่อยากจะทุบโชกุนแรงๆ สักที โทษฐานแกล้งกันหนักขนาดนี้

        “ให้พี่ไจ๋ไปเข้าห้องน้ำเถอะนะ นะครับ อย่าแกล้งพี่ไจ๋เลย”

        “แค่ช่วยตัวเอง ไม่ต้องอายหรอก”

        “มันไม่ใช่เรื่องน่าดูสักหน่อย”

        “เร็วๆ”

        “น้องโช...”

        “ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวทำให้นะ”

        “!!”

        เนี่ย! เอาน้องโชคนดีคนเดิมของพี่ไจ๋กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!

        ขอไปเท่าไรโชกุนก็ไม่ยอมปล่อยกันไปง่ายๆ เบะปากให้ก็แล้ว อ้อนก็แล้ว โชกุนในตอนนี้เหมือนแมวทอมในเรื่องทอมแอนด์เจอร์รี่ที่กำลังคอยตะปบหางหนูเอาไว้ ไม่ให้หลุดรอดไปจากอาณาจักรของตัวเองได้ บางทีก็ยื่นนิ้วมาจิ้มๆ เขี่ยๆ จนไจ๋ต้องตีมือน้องทันที แต่แทนที่จะสลดใจกลับยกยิ้มเอ็นดูเสียอย่างนั้น น้อยครั้งที่ไจ๋จะขมวดคิ้วมุ่น ทำหน้าตาเหมือนอยากจะหยิกใครสักคน เห็นแล้วก็อยากจะแหย่ให้มากกว่านี้เสียจริง

        พอรู้ตัวว่าทำยังไงก็หนีไม่รอด ถูกต้อนขนาดนี้แล้ว ไจ๋อึกอัก ก้มหน้าก้มตา ไม่มองโชกุนอีก ทำทีเป็นเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มมาคลุมช่วงล่างตัวเองเอาไว้ พลิกตัวนอนตะแคงเล็กน้อย แล้วหลับตาลง ใช้มือข้างเล็กในการสัมผัสร่างกายตัวเอง กลั้นเสียงเอาไว้สุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้มีอะไรน่าอายไปมากกว่านี้

        โชกุนกวาดสายตามองดูการเคลื่อนไหวเล็กๆ ใต้ผ้าห่มนั้น ปลายเท้าของไจ๋ที่โผล่ออกมาเดี๋ยวจิกเกร็งเดี๋ยวคลาย สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงอารมณ์ เสียงหอบหายใจแว่วมาให้ได้ยินชวนให้คนฟังเองก็รู้สึกร้อนรุ่มไม่ต่างกัน โชกุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กลืนน้ำลายลงลำคอแห้งผาก ขยับเข้าไปใกล้ จับปลายคางของไจ๋ให้หันกลับมาหาตัวเอง ประกบริมฝีปากจูบลงไปช้าเนิบ เดี๋ยวก็แลบลิ้นเลีย เดี๋ยวก็บดขยี้ให้หัวใจของพี่ไจ๋สะท้านเล่นๆ อาศัยจังหวะที่ไจ๋กำลังเคลิบเคลิ้มในการสอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่ม สัมผัสเข้ายังส่วนอ่อนไหวของไจ๋ที่ตอนนี้กำลังร้อนชื้น ปลายนิ้วบดขยี้เบาๆ เสียงครางหวิวน่าฟังก็หลุดมาให้ได้ยินทันที

        “อ...อ้ะ”

        เสียงพี่ไจ๋ครางช่างน่าฟัง ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้แตะต้องร่างกายของไจ๋แบบนี้ เรียวขาสั่นๆ หนีบเอาไว้แน่นจนแทบจะขยับมือไม่ได้ โชกุนเลยตะโบมจูบไปทั่วอีกครั้ง ซุกไซ้ซอกคอออย่างเอาแต่ใจ ลากลิ้นเลียผิวกายร้อนๆ ช่วงนั้น พรมจูบถ้วนทั่ว ก่อนจะวนกลับมาประทับริมฝีปากแนบแน่น อ้าปากส่งเรียวลิ้นกวาดต้อนไปด้านใน หยอกล้อกับลิ้นเล็กๆ ของพี่ไจ๋ที่เผลอขยับตอบโต้ตามกันอย่างเงอะๆ เงิ่นๆ ลมหายใจของไจ๋สะดุดไป ไม่เป็นจังหวะ มีบ้างที่โชกุนผละออกเพื่อที่จะรอฟังเสียงหวานๆ อันสุดแสนจะหายากแบบนี้

        “อื้อ...อ้ะ”

        “...”

        “อ้ะ..โช น้องโช”

        “ครับ”

        “น้องโช...อื้อ”

        “ว่ายังไงครับ”

        “โช...”

        “...”

        “จูบพี่ไจ๋หน่อย...ได้ไหม”

        เอ่ยขอเสียงสั่น พร้อมใช้แววตาฉ่ำวาวจ้องมองกันแบบนี้ มีหรือที่โชกุนจะปฏิเสธ โน้มหน้าลงไปหาพร้อมรอยยิ้มบาง เสียงจูบเฉอะแฉะน่าอาย แต่ไม่มีใครสนใจมันอีกแล้ว ไจ๋ในตอนแรกมีความเขินอายเกินกว่าที่จะรับไหว แต่พอถูกสัมผัสมากเข้าก็เคลิบเคลิ้ม ปล่อยตัวปล่อยใจให้โชกุนควบคุมมันทั้งหมด ถูกจับพลิกกลับมานอนหงาย ผ้าห่มที่เคยใช้คลุมร่างถูกดึงออก เรียวขาที่เคยหนีบแขนแกร่งของน้องเอาไว้แน่น ตอนนี้อ้าออกกว้าง สะโพกเผลอขยับสวนจังหวะของฝ่ามือนั้น ชายเสื้อยืดตัวโคร่งถูกเลิกขึ้นจนกองเหนือแผ่นอก เผยให้เห็นเรือนร่างอันดูดีของเจ้าตัว จนทำให้โชกุนต้องกวาดสายตามองเพื่อบันทึกภาพเอาไว้ในหัวทุกจุด

        ไจ๋ไม่ได้เป็นผู้ชายตัวผอม บอบบางจนเห็นก้างกระดูก เขาเป็นนักกีฬา ถึงจะตัวเล็ก แต่ก็มีกล้ามเนื้อ บ่งบอกถึงความแข็งแรง หน้าท้องปรากฏร่องเล็กๆ ประดับเอาไว้แลดูสวยงาม ปลายนิ้วร้อนลากผ่านไจ๋ก็หดเกร็ง มืออีกข้างก็ยังยุ่งอยู่กับการขยับชักนำส่วนอ่อนไหว จ้องมองดูไจ๋ในตอนนี้ ที่กำลังยกมือปิดหน้าปิดตาตัวเอง สะโพกสั่นกระตุกเป็นระยะๆ อย่างน่าเอ็นดู เดี๋ยวก็ถดหนี เดี๋ยวก็ขยับเข้าหา สู้มืออย่างน่ารัก

        ในตอนนั้นเองที่ดวงตาของโชกุนสว่างวาบ หลุบตาลงมองดูเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือตัวเอง ภาพจากหนังผู้ใหญ่ที่เคยดูวิ่งเข้ามาทักทายทันที

        “อ..อื้อ! อื้อ! โช...น้องโช อ้ะ!”

        จากที่เคยปิดหน้าปิดตาหนีด้วยความเขินอาย ตอนนี้กลับต้องยอมกลับมาจ้องมองดูภาพตรงหน้าอีกครั้ง ไจ๋ผวาเฮือก ปลายเท้าจิกเกร็งสุดๆ สองมือเลื่อนไปขยุ้มเส้นผมที่ปัดป่ายไปมาอยู่ตรงระหว่างขาตัวเอง สัมผัสร้อนชื้นกำลังทำให้ไจ๋เหมือนจะหัวใจวายตาย น้ำตารื้นลงมาหนึ่งหยดด้วยความรู้สึกประหลาดที่ปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อย สองมือใหญ่ของโชกุนบีบขย้ำสะโพกเอาไว้แน่นจนน่ากลัวว่าจะขึ้นรอยมือแน่ๆ ไจ๋อ้าปากหอบคราง ส่งเสียงประหลาดออกมาไม่หยุดเหมือนลืมไปแล้วว่าต้องกลั้นเอาไว้ หน้าท้องหดเกร็งเป็นระยะ ถูกโชกุนครอบครองส่วนอ่อนไหวกลางกายเอาไว้ด้วยโพรงปากและเรียวลิ้น ไม่นานก็เหมือนถูกอย่างถูกรีดไปรวมไว้ที่จุดเดียว ไจ๋หลับตาปี๋ อยากจะดึงโชกุนออก แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

        “ฮะ...ฮึก โช น้องโช”

        สะอื้นเสียงแผ่วออกมาเมื่อทุกอย่างเคลื่อนผ่านไปเสี้ยววินาที ไจ๋ค่อยๆ ทิ้งตัวลงนอนกับเตียงอย่างคนหมดแรง เหนื่อยอ่อนเสียยิ่งกว่าไปลงแข่งยูโดสนามไหนๆ สองมือเลื่อนมากุมหน้าท้องตัวเองเอาไว้ ปล่อยให้โชกุนค่อยๆ ผละออกไปเชื่องช้า อีกฝ่ายนั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ไจ๋นอนมองด้วยหัวใจสั่นๆ ต้องเม้มปากแน่นเมื่อได้สบตากับโชกุน มองเห็นเรียวลิ้นค่อยๆ แลบออกมากวาดต้อนคราบบางอย่างตรงมุมปากกลับเข้าปาก ก็อยากจะกดระเบิดตัวเองให้แหลกไปเสียเดี๋ยวนั้น

        เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่ายังดังมาเป็นระยะ ไจ๋กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มองดูโชกุนค่อยๆ จับขายกขึ้นเพื่อสวมใส่กางเกงขายาวให้กลับคืน แล้วจัดท่าทางให้นอนหงายไปกับเตียง หยิบหมอนมาช่วยวางรองใต้ศีรษะให้ ดึงผ้าห่มมาคลุมให้ ปล่อยให้คนพี่นอนตาปรือพร้อมจะหลับตลอดเวลาแบบนั้น ใบหน้าของไจ๋ยังคงแดงก่ำ ริมฝีปากบวมเจ่อเผยอสั่นระริก ชวนให้คนมองต้องนึกถึงเสียงครางหวานๆ เมื่อครู่นี้ ต้องรีบหันหน้าหนี ข่มใจไม่ให้เสียสติไปมากกว่าที่เป็นอยู่

        “น้องโช...”

        “นอนซะ”

        “จะไปไหน”

        “เดี๋ยวมา”

         “...”

        “เดี๋ยวกลับมา นอนรออยู่ตรงนี้แหละ”

        “แต่...”

        “ถ้ายังไม่นอน จะไม่ให้นอนแล้วนะ”

         แล้วใครมันจะกล้าไปรั้งต่อกันเล่า! เล่นขู่มาแบบนี้ได้ยังไงกัน

           ไจ๋ปล่อยให้คนน้องหายไปเข้าห้องน้ำ ส่วนตัวเองก็ยังนอนกำผ้าห่มแน่น รู้สึกเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เป็นความฝัน แต่สัมผัสร้อนผ่าวทั่วกายยังย้ำเตือนให้รู้ว่านี่คือความจริง ความจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ความจริงที่ว่าเขากับโชกุนต่างสารภาพความในใจต่อกันและกัน ความจริงที่ว่าพวกเขาทั้งคู่จูบกันอย่างหวานชื่นดูดดื่ม และความจริงที่ว่าโชกุนใช้ริมฝีปาก.... ทั้งหมดล้วนเป็นความจริงแสนน่าอายที่ไจ๋เองก็แทบจะรับไม่ไหว วันนี้เจอแต่เรื่องชวนใจเต้นโครมครามไม่หยุด ไม่รู้ว่าจะต้องโทษใครดีระหว่างเด็กหนุ่มคนนั้นที่รุกกันแรงเกินไป หรือต้องโทษที่หัวใจของตัวเองอ่อนแอปวกเปียกแบบนี้

        ไจ๋สู้โชกุนไม่ได้เลย ไม่ได้เลยสักนิดเดียว จะเอาอะไรไปชนะเขาได้

        แปลว่า...หลังจากนี้น่ะ ทั้งเขาทั้งโชกุน ก็ไม่ใช่แค่พี่น้องเจ๋ง กับเพื่อนน้องเจ๋งกันอีกแล้วสินะ

 

        “พูดแล้วนะ”

        “ครับ พี่ไจ๋จะพูดกับน้องเจ๋งให้อีกแรง”

        “มันต้องโมโหมากแน่ๆ ที่โชกลายเป็นแฟนพี่มัน”

        “ก็...นะ...น้องโช น้องโชๆๆๆๆ”

 

            โอ้ยๆๆๆ น้องโชทำไมร้ายกาจแบบนี้ล่ะเนี่ย ทำไมถึงแกล้งพี่ไจ๋แรงขนาดนี้ด้วย

            นอนใจสั่นอยู่อย่างนั้น คิดวุ่นวายไปมากมายหลายพันประการ ก่อนที่ความง่วนงุนจะเข้ามาทักทาย ดวงตาปรือปรอบค่อยๆ หลับลงเชื่องช้า สัมผัสสุดท้ายที่รับรู้ได้คืออ้อมกอดอุ่นๆ ที่ดึงตัวเองให้เข้าไปหา โอบกอดเอาไว้แน่นๆ รวมไปจนถึงไออุ่นร้อนเบาบางที่ประทับลงกลางหน้าผาก คล้ายมีฝ่ามือลูบไล้ศีรษะตัวเองเล็กน้อยจนยิ่งทำให้รู้สึกเคลิ้ม ปล่อยให้สติอันน้อยนิดค่อยๆ หลุดลอยออกไปไกลแสนไกล จมอยู่ในห้วงนิทราอันอบอุ่นนั้นแต่โดยดี

        เหมือนลืมอะไรไปสักอย่าง

        ในตอนที่ทำเรื่องนั้นกันน่ะ....โชกุนไม่กลัวเสียงฟ้าผ่าเลยจริงๆ น่ะเหรอ แปลกจัง

 

 

To be continued

#จิ๋วแต่ไจ๋

https://twitter.com/littleskyofme

 

 

 

 

x

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

[NC] Special story #โอ๊ยเจ๋ง 6

 [NC] Special story #โอ๊ยเจ๋ง 6 **ต่อจากเนื้อหาในเว็บหลัก** “นายชอบฉันจริงๆ หรือเปล่า” เจ๋งดึงสายตากลับมาจ้องหน้าฟูยุอีกครั้ง ไฟในบ้านเปิดเอ...