วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2564

[NC] Special story #โอ๊ยเจ๋ง 6

 [NC] Special story #โอ๊ยเจ๋ง 6




**ต่อจากเนื้อหาในเว็บหลัก**


“นายชอบฉันจริงๆ หรือเปล่า”

เจ๋งดึงสายตากลับมาจ้องหน้าฟูยุอีกครั้ง ไฟในบ้านเปิดเอาไว้แค่ไฟดวงเล็กๆ เท่านั้น ทำให้มองเห็นใบหน้าของฟูยุเพียงรำไร ทว่า แววตาของอีกฝ่ายที่ใช้มองกันกลับชัดเจน เจ๋งกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ เขารู้สึกได้เลยว่าหัวใจของตัวเองกำลังเต้นแรงเป็นอย่างมากที่ฟูยุอยู่ใกล้ในระยะประชิดขนาดนี้ มือกำกระเป๋าแน่นกว่าเดิม ส่วนฟูยุก็จับแขนของเขาเอาไว้แน่น ช้อนตามองกันแน่นิ่ง ราวกับกำลังรอฟังคำตอบ

อั้ยย ในเว็บมันไม่เห็นบอกเลยว่าหนุ่มญี่ปุ่นจะรุกกันแรงขนาดนี้!

แต่การกระทำของเจ๋งกลับนำไปก่อนทุกอย่าง ไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรก็พยักหน้าตอบกลับไปแล้ว กว่าจะรู้ตัวก็ตกใจจนสะดุ้งตาเหลือก ปฏิเสธก็ไม่ทัน ไอ้หัวใจไม่รักดีมันเห็นหน้าพี่เขาเข้าหน่อยก็สั่งให้หัวผงกหงึกๆ ให้แล้วเรียบร้อย เจ๋งกำลังจะอ้าปากเถียง แต่ในจังหวะนั้นเองที่ฟูยุกลับเป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สองมือดึงคอเสื้อของเจ๋งเอาไว้แน่น กระทั่งริมฝีปากของทั้งคู่แนบชิด กระเป๋าเป้ของเจ๋งก็ร่วงลงพื้นส่งเสียงดังตุ้บ! เจ๋งตาลายไปหมด ยืนตัวแข็งทื่อ ทำตัวไม่ถูกนักเมื่อเป็นฝ่ายถูกสัมผัสก่อน

ผ่านไปเกือบนาทีกว่าที่ฟูยุจะผละออก พวกเขาทั้งสองคนสบตากัน ก่อนที่ฟูยุจะทำท่าคล้ายคนเพิ่งได้สติว่าเพิ่งทำเรื่องน่าอายอะไรลงไป แก้มทั้งสองข้างเหมือนขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย ไม่รู้ว่ามาจากฤทธิ์เหล้าหรืออย่างอื่น อยากจะถอยหลังหนี แต่เพราะจูบเมื่อครู่ไปเตะเข้าถูกจุดอันตรายของเจ๋ง พอรู้ว่าคนพี่จะผละออก มือหนาก็รีบดึงเขากลับเข้ามา ข้างหนึ่งโอบกอดเอว รั้งให้ลำตัวแนบชิด ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนไปบังคับท้ายทอยกลายๆ ปรับเอียงใบหน้าเพื่อลองทำตามใจตัวเองสักครั้ง สัมผัสริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่เขาชอบเผลอมองอยู่บ่อยๆ อย่างเอาแต่ใจ ฟูยุหลับตาปี๋ จูบของเจ๋งในตอนนี้เหมือนกับจะเอาคืนกันอย่างไรอย่างนั้น

“อ...อื้อ” รู้ตัวอีกทีก็เป็นฝ่ายถูกจับให้แนบชิดผนังแทนที่ เจ๋งเผลอลืมตัวไปชั่วขณะ พอฟูยุตกใจเปิดปากก็แทรกเรียวลิ้นตัวเองเข้าไปทันทีอย่างห้ามใจไม่อยู่ กวาดต้อนทุกสิ่งทุกอย่าง ยิ่งพอลิ้นของฟูยุทำท่าคล้ายกับกำลังหลบหนี จังหวะที่ได้ไล่ตามเขาก็ยิ่งชอบใจ บดเบียดร่างกายเข้าไปแนบชิดมากยิ่งขึ้น กระทั่งรู้สึกได้ว่าฟูยุกำลังขาอ่อนแทบจะยืนไม่ไหว จึงผละออก เว้นจังหวะให้อีกฝ่ายได้หายใจ และเมื่อได้เห็นสภาพของฟูยุในตอนนี้ สติอันน้อยนิดของเขาก็ขาดสะบั้น ความคิดอกุศลมากมายที่เคยสั่งสมมาวิ่งพล่านไปทั่ว

สารภาพว่าเขาคิดดีไม่ได้เลยกับการได้เห็นฟูยุตาหวานฉ่ำ ใบหน้าแดงๆ และเผยอริมฝีปากแบบนี้ คนนอกอาจจะเคยเอ่ยชมว่าเขาเป็นคนที่หล่อเหลามากมายขนาดไหน แต่ตอนนี้เจ๋งนึกได้แค่คำคำเดียว...เซ็กซี่  ฟูยุดูเซ็กซี่มากๆ จนเขาต้องรีบกัดฟันแน่น

“พ..พี่ช่วยผลักผมออกได้ไหมครับ”

“...”

“ถ้าไม่อยากให้ไปไกลกว่านี้ ผลักผมออกได้หรือเปล่า”

“นายอยากให้ฉันเป็นคนปฏิเสธนายเองสินะ”

“ครับ”

เจ๋งพยักหน้า เพราะตัวเขาเองตอนนี้ไม่อาจจะห้ามตัวเองได้ไหวจริงๆ ถ้าหากฟูยุเป็นฝ่ายดันเขาออกเองก็คงจะพอหยุดทุกอย่างไม่ให้มันไกลไปกว่านี้ได้

แต่ใครจะไปคิด ว่าสิ่งที่เขาร้องขอไป กลับได้บางอย่างตรงข้ามกลับมา

และในวินาทีที่ฟูยุรั้งลำคอเขากลับไปหาอีกครั้งเพื่อแนบชิดริมฝีปากเข้าด้วยกัน ในตอนนั้นเขาก็ถือแล้วว่าฟูยุเลือกที่จะตัดช้อยส์ปฏิเสธทิ้งไป และการเปิดริมฝีปากพร้อมโอบกอดตอบกลับ ก็เป็นดั่งคำอนุญาตให้เจ๋งได้ขยับเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม

ดูท่าทาง เขาจะต้องขอบคุณเพื่อนหัวหมอนั่นจริงๆ ที่รู้จักสรรหาอุปกรณ์พร้อมรบมาให้กัน

“ฮะ...”

ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะได้เห็นภาพนี้ชัดๆ ต่อให้จะรู้ดีว่าครั้งหนึ่งเขากับฟูยุก็เคยข้ามเส้นกันไปไกล แต่เพราะวันนั้นเขาเองไม่มีสติ ภาพที่จำได้จึงค่อนข้างเลือนราง ไม่เหมือนอย่างวันนี้ เขาใช้สองมือใหญ่ลากไล้สัมผัสเนื้อตัวของฟูยุอย่างเอาแต่ใจ เรือนร่างของฟูยุใต้ร่มผ้างดงามกว่าที่เคยจินตนาการเอาไว้เสียอีก กล้ามเนื้อหน้าท้องเรียงตัวสวย หัวไหล่และไหปลาร้าที่น่ามอง แผ่นหลังเรียบเนียน ฟูยุไม่ใช่คนตัวผอมบอบบางอะไรเลย เขาก็นักกีฬาคนหนึ่ง มีหุ่นและรูปร่างที่สมส่วน ทุกอย่างดึงดูดสายตาเขาทั้งหมดโดยเฉพาะเจ้าตุ่มไตเล็กๆบนหน้าอกที่กำลังชูชันขึ้นมาอย่างน่ารัก

เจ๋งโน้มหน้าลงต่ำไปเรื่อยๆก่อนจะอ้าปากขบกัดเบาๆ แถวบั้นเอวจนรุ่นพี่สะดุ้งเฮือก เผลอหลุดพูดเสียงกระเส่าออกมา สองมือขยุ้มผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น เพิ่งจะรู้สึกตัวว่ายอมให้เจ๋งอุ้มตัวเองมาจนถึงห้องนอนส่วนตัวแล้ว

“だめ... (ด..ดาเมะ, อย่านะ) ”

เจ๋งชะงักค้าง จ้องมองไปยังใบหน้าแดงๆ ของฟูยุด้วยความตกใจระคนตื่นเต้น เขาชื่นชอบมากอยู่แล้วเวลาที่ฟูยุพูดภาษาญี่ปุ่น ไม่คิดว่าการที่มาได้ยินในเวลาแบบนี้มันกลับทำให้รู้สึกชื่นชอบมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว รู้ตัวอีกทีก็โน้มหน้าเข้าไปใกล้ กลั่นแกล้งโดยการลากไล้ปลายนิ้วไปมาตรงบั้นเอวที่ฟูยุหวงนักหวงหนา ไม่ยอมให้แตะ มือเรียวสวยปัดป้องเมื่อถูกรังแก แววตาของเจ๋งยิ่งวาววับ เขาขยุ้มบั้นเอวหนักๆ อย่างมันเขี้ยว ก่อนจะเลื่อนลงไปยังส่วนอ่อนไหวที่ชื้นแฉะเบื้องล่าง โอบรัดด้วยอุ้งมือ ขยับไปมาเบาๆ เรียวขาทั้งสองข้างหนีบเข้าหากันอย่างน่ารัก ภาษาญี่ปุ่นจึงหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากนั่นให้เขาได้ยินชัดๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“พี่ทำแบบนี้อยากให้ผมคลั่งตายใช่ไหม”

ฟูยุอับอายจนไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน นอกเสียจากเอนหน้าซบกับที่นอน ปล่อยให้ร่างกายร้อนๆ ของตัวเองถูกเจ๋งควบคุมทั้งหมด พวกเขาข้ามขั้นมาไกลกว่าที่คิด ฟูยุหลับตาลง โวยวายกับตัวเองในใจ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่ามันจะจบลงแบบนี้ แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็คงช่วยไม่ได้ เขามองตาเจ๋งก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายคิดเช่นไร เพราะแบบนี้จึงยกมือขอเวลานอกไปจัดการตัวเอง ไม่นานก็เดินขาสั่นกลับมาที่เตียง เจ๋งเหมือนหมดความอดทนแล้วเรียบร้อย ฟูยุนอนคว่ำหน้าลง สะโพกยกสูงขึ้น เรียวขาที่ใช้ค้ำยันกับเตียงถูกจับให้ขยับแยกออก มันสั่นระริกเล็กน้อยเมื่อบางอย่างค่อยๆ เข้ามาภายในร่างกาย

“เจ็บไหมครับ”

“อื้อ...”

“ถ้าพี่เจ็บก็บอกผมได้นะ”

“ท..ทำไปเฉยๆ ได้ไหม ไม่ต้องพูด”

“ทำไมล่ะ”

“...”

“หืม”

ฟูยุอับอายจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเลยได้แต่ทิ้งหน้าซบลงกับเตียง ส่งเสียงอู้อี้ ก่อนจะกัดฟันแน่นเมื่อเจ๋งเข้ามาได้จนหมด ความรู้สึกอึดอัดและร้อนผ่าวไปทั่วท้องน้อยทำให้ฟูยุเหมือนกำลังจะละลายคาเตียงอย่างไรอย่างนั้น เจ๋งอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือไปบีบขยำสะโพกและก้อนเนื้อบั้นท้ายนุ่มนิ่มน่ารักนั่นเต็มมือ ในขณะที่เริ่มขยับตัวไปด้วย ก็ช่วยพรมจูบจนทั่วแผ่นหลัง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สัมผัสอ่อนโยนค่อยๆเปลี่ยนไปแล้ว

ราวกับลืมตาขึ้นมาอีกครั้งทั่วทั้งแผ่นหลังสวยๆ ของฟูยุก็เต็มไปด้วยรอยฟัน ไล่ตั้งแต่ท้ายทอยลงมา ฟูยุน้ำตารื้นจนใบหน้าแดงก่ำ ทิ้งตัวลงกับเตียงเมื่อสะโพกถูกยึดเอาไว้แน่นๆ ยอดอกสีก่ำเสียดสีกับที่นอนจนฟูยุแอบรู้สึกเจ็บตึง ด้านหลังปล่อยให้เจ๋งหยัดแรงใส่อย่างหนักหน่วง เสียงผิวกายกระทบกันฟังดูน่าหยาบโลน แต่กลับยิ่งกระตุ้นเจ๋งอย่างน่าประหลาด เข้าโน้มตัวลงไปหา มือข้างหนึ่งขยับส่วนที่ชูชันเบื้องล่าง ส่วนอีกมือก็เขี่ยยอดอก สลับบดขยี้ไปมาหนักๆ จนมันชูชันสู้มือ เสียงหอบหายใจหนักๆ ของฟูยุมาพร้อมกับกลิ่นหอมจางๆ คล้ายจะเป็นยากระตุ้นชั้นดีที่ทำให้เด็กหนุ่มอย่างเจ๋งไม่คิดจะออมแรงอีก

“อ้ะ!”

ท่าแล้วท่าเล่าที่เผลอโอนอ่อนตามใจคนอายุน้อยกว่าส่งผลให้ฟูยุเบ้หน้าออกมา น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นด้วยความรู้สึกเสียดเสียว เจ๋งทอดสายตามองดูคนที่นอนหงายอยู่เบื้องล่าง เขาจูบแรงเกินไปจนทำให้ริมฝีปากสวยๆ ต้องแตกเป็นแผล จึงโน้มหน้าลงไปจุมพิตเบาๆ ปลอบประโลมรวมถึงจูบซับน้ำตาให้ แขนแกร่งช้อนรองใต้ลำคอ พรมจูบทั่วใบหน้า เปลือกตา หน้าผากอย่างอ่อนโยน ในขณะที่เบื้องล่างเล่นโจมตีกันไม่หยุดจนฟูยุจุกท้อง สองมือสวยผวาดันหน้าท้องแกร่งของเจ๋งในยามที่มันเข้ามาลึกเกินไป เสียงครางกระเส่าน่าฟังหลุดออกมาไม่หยุด

ไม่รู้ว่าพวกเขาใช้เวลาร่วมกันไปเท่าไร กว่าที่ทุกอย่างจะจบลง ฟูยุหอบหายใจอ่อนแรง เขาคิดผิดไปแล้ว ประเมินแรงของพ่อนักกีฬาหนุ่มคนนี้ต่ำเกินไป เล่นเอาเสียจนเขาขาสั่นไปหมด จบท่าสุดท้ายโดยการที่เขานั่งซ้อนอยู่บนตัก มือใหญ่ของเจ๋งจับเอวแล้วขยับกระแทกอย่างเอาแต่ใจ ฟูยุเชิดหน้าขึ้น หลับตาปี๋ เจ๋งก็พุ่งเข้าหา อ้าปากขบเม้มพร้อมแลบลิ้นเลียตามความยามลำคอสวยระหง หยอกล้อกับลูกกระเดือกเบาๆโดยการขบกัด ฟูยุโอบกอดเอาไว้แน่น เป็นผลให้ใบหน้าของเจ๋งฝังอยู่กับหน้าอกตัวเอง ไม่รู้ว่านั่นคือความคิดที่ผิดมหันต์ ยอดอกน้อยๆถูกขบกัดและดูดดึงจนเจ็บตึงไปหมด ในจังหวะสุดท้ายที่เจ๋งกระแทกหนักๆ ฟูยุก็ปลดปล่อยออกมาจนเลอะทั่วหน้าท้องแกร่งไปหมด

 กว่าที่เจ๋งจะรู้จักพอ ฟูยุก็เหนื่อยจนเอนซบคาหน้าอกไปแล้ว เจ๋งโอบกอดเอาไว้ ลูบหลังไปมาเบาๆ พร้อมกดจูบลงบนลาดไหล่ตรงหน้า

ใครมันจะไปคิดว่าหมาวัดอย่างไอ้เจ๋งจะทำดอกฟ้ายับเยินขนาดนี้

“เหนื่อย...”

“จ...เจ็บหรือเปล่าครับ ผมขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ แต่ผมห้ามตัวเองไม่ไหวเลย”

“...”

“ผมขอโทษนะ”

“ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก”

ในใจของเจ๋งพอโตขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่าฟูยุจุมพิตเบาๆ ลงบนหน้าอกตัวเองหลังจากพูดประโยคนั้นจบ เขากระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ส่งผ่านไออุ่นของร่างกายให้กันและกัน ภายในของฟูยุยังคงร้อนจัด แม้คลื่นลูกล่าสุดจะจบลงไปแล้วแต่เจ๋งก็ยังคงแช่ค้างเอาไว้ขณะนั่งกอดกัน เจ๋งลูบหลังของฟูยุไปมาเบาๆ มองเห็นรอยแผลเป็นตรงไหล่ข้างหนึ่งแล้วก็จำได้ว่าฟูยุเคยเข้ารับการผ่าตัด จึงยื่นมือไปลูบมันด้วยความรู้สึกหลากหลาย

และในตอนนั้นเองที่เขานึกถึงกระทู้จีบคนญี่ปุ่นที่เคยอ่าน ความอยากรู้อยากลองบังเกิดขึ้นในทันที

“ฟูยุซึกิเซมไป

“อย..อย่าเรียกแบบนั้นนะ”

“ฟูยุซึกิเซมไป ~”

“บอกว่าอย่าเรียกไง!”

“โอ้ยๆ เขินแล้วไม่เห็นต้องหยิกกันเลย”

เจ๋งหัวเราะออกมา ก่อนที่จะคลายอ้อมแขนเล็กน้อยเพื่อจ้องหน้าของฟูยุ เรียวแขนของรุ่นพี่คนเก่งยังโอบลำคอกันเอาไว้ ตอนนี้ฟูยุทำหน้าตาคล้ายกับจะเขินแต่ก็คล้ายกับจะหงุดหงิด ดูยู่ยี่น่ารักจนอดไม่ไหวที่จะขยับเข้าไปมอบจุมพิตให้เป็นรางวัลอีกสักทีสองที ปลายจมูกคลอเคลียถูไถใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างออดอ้อน คล้ายกับภายในของฟูยุตอดรัดแน่นขึ้นเมื่อเขาทำเช่นนั้น

“พี่”

“...”

“ผมชอบพี่จริงๆ นะ”

“...”

“ชอบมากๆ เลยด้วย”

ฟูยุเม้มปาก ไอร้อนลามขึ้นใบหน้าอีกครั้ง หลุบตามองดูสภาพเตียงนอนและสภาพของตัวเองก็พอจะรับรู้ได้ว่าไอ้ชอบมากๆ ของหมอนี่น่ะมันมากขนาดไหน

“อื้อ”

“พี่ชอบผมบ้างหรือเปล่า”

“...”

“ชอบผมบ้างไหมครับ”

ฟูยุพ่นลมหายใจ อดไม่ได้ที่จะยกมือขยุ้มหัวเจ้าเด็กตัวโตนี่แรงๆ สักทีจนเจ๋งได้ร้องโอ้ยอีกรอบ น้องชายคนเก่งของไจ๋เบ้หน้าน้ำตาคลอ

อะไรกัน เขาก็แค่ถามเองว่าชอบเขาบ้างหรือเปล่า ถึงกับต้องขยุ้มหัวกันเลยเหรอ ใจร้ายอ่ะ!

“อย่ามาโง่เอาตอนนี้จะได้ไหม”

“เอ้า ก็...”

“ให้ทำถึงขนาดนี้แล้วยังคิดไม่ได้อีกหรือไง ห้ะ!”

ฟูยุโวยวายออกไปทั้งที่ใบหน้ายังคงแดงก่ำ ทุบมือลงกลางหน้าอกอีกฝ่ายอย่างไม่เบาแรงนัก เขาช้อนตามองดูเด็กหนุ่มตรงหน้า เจ๋งจ้องมองกันด้วยสีหน้างุนงงอยู่สักพักก่อนที่จะค่อยๆ เบิกตากว้าง ในนั้นสว่างวาบ เต็มไปด้วยความดีใจและความตื่นเต้นบางอย่างที่ฟูยุไม่อาจจะทนมองได้ จึงหลบเลี่ยงสายตาไปทางอื่น คาดว่าเจ๋งคงเข้าใจที่ตัวเองจะสื่อแล้ว จึงกระชับวงแขนตัวเองแน่นแล้วพูดต่อเสียงอ้อมแอ้ม

“ม..ไม่ต้องมามองกันแบบนั้น”

“พี่”

“บอกว่าอย่ามามองกันแบบนั้นไง...อ้ะ! จ...เจ๋ง นาย นี่นาย!”

และแล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อรู้สึกได้ถึงการตื่นตัวของสิ่งที่ยังแช่ค้างอยู่ภายในร่างกาย ริมฝีปากของฟูยุสั่นระริก จ้องหน้าเจ๋งด้วยความตกใจ ในขณะที่เด็กตัวแสบตรงหน้าได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้กัน พร้อมกระชับเอวเอาไว้แน่นขึ้นไม่ให้หนีไปไหนได้อีก

“ขอโทษครับ แหะๆ”

“นายหื่นขนาดนี้เลยเหรอไง! พอแล้ว เหนื่อยแล้ว!”

“ก็พี่ทำตัวน่ารักก่อนอ่ะแล้วพี่จะมาโทษผมได้เหรอ”

“เจ๋ง! อื้อออ!”

“อีกรอบนะครับ”

“อ...ไอ้ ไอ้...”

"นะ"

"ไม่ต้องมาอ้อน"

"น้าาาา"

"..."

"ฟูยุซึกิเซมไปปป ซุกิเดสน้าๆๆๆ"

เป็นอีกครั้งที่เจ้านี่งัดเอาท่าไม้ตายออกมาใช้ และฟูยุก็หลงกลไปแล้วเรียบร้อย 

รู้อยู่หรอกว่าพวกหนุ่มๆ นักกีฬามันแรงดี แต่มันก็ไม่ควรจะแรงดีขนาดนี้!

ฟูยุนอนซมจมกับกองผ้าห่ม จมหน้าลงกับหมอนใบนุ่ม ได้แต่นอนทิ้งตัวอย่างหมดสภาพ เนื้อตัวปรากฏแต่รอยขบกัดไปทั่วแทบไม่ว่างเว้น กำมือแน่นจนมือสั่นไปหมด ทุบที่นอนปั้กๆเพื่อระบายอารมณ์ ข้างกันเป็นไอ้ตัวสร้างเรื่องที่กำลังนั่งพับเพียบพนมมือไหว้ขอโทษ หลั่งน้ำตาสะอึกสะอื้นชวนให้รู้สึกสงสาร แต่ตอนนี้ฟูยุไม่อาจจะสงสารใครได้อีกนอกเสียจากร่างกายของตัวเอง

หมอนี่...ทำตัวอ่อนปวกเปียกเพื่อตบตาให้ตายใจทั้งนั้น!

“น้องทำนิดเดียวเอง”

“นายกล้าพูดว่านิดเดียวเหรอ ห้ะ!”

“ฟูยุซึกิเซมปายยยย”

“ไสหัวออกไปให้พ้นเลย! ออกไปนอนที่ไหนก็ไป!”

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564

[NC] จิ๋วแต่ไจ๋ CHAPTER 33 (100%)

 

[NC] จิ๋วแต่ไจ๋ CHAPTER 33 


“ยกสะโพกหน่อยครับ”

พี่ไจ๋ในวันนี้บอกง่าย แต่อาจจะเชื่องช้านิดหน่อยเพราะเขินอาย โชกุนรู้ดีว่าที่ทำอยู่ตอนนี้มันกำลังไปไกลมากขึ้นทุกที แต่เขาก็ไม่อาจจะหยุดตัวเองได้ ในเมื่อไจ๋เองก็ยินยอมพร้อมใจ ไม่ได้เอ่ยปากห้ามกัน ราวกับรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรสักวันพวกเขาก็คงต้องทำอะไรไปไกลกว่ากอดและจูบ โชกุนได้แต่กัดฟันข่มใจเมื่อมือใหญ่ของเขาค่อยๆสัมผัสลงบนบั้นเอวและสะโพกของพี่ไจ๋ ลูบไล้ไปมาเบาๆ เพียงเท่านั้นพี่ไจ๋ก็ยิ่งกำหมอนแน่นกว่าเดิม

โชกุนก็ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเขาจะมีโอกาสได้มองเห็นภาพพี่ไจ๋นอนตัวแดงอยู่ใต้ร่างตัวเองจริงๆแบบนี้

กดจูบลงไปบนหัวไหล่ข้างหนึ่ง พร้อมกับใช้ปลายนิ้วชุ่มเจลค่อยๆกดแทรกเข้าไปยังช่องทางสีอ่อน ลมหายใจร้อนๆของโชกุนเป่ารดลงบนซอกคอจนทำให้ไจ๋แทบจะบ้าตาย หลับตาปี๋เมื่อรู้สึกได้ถึงการขยับเคลื่อนไหวของเจ้านิ้วนั่นภายในร่างกายของตัวเอง โชกุนขยับมันไปมาเชื่องช้า เดี๋ยวก็ถูไถไปกับผนังนิ่มจนไจ๋ตัวอ่อนยวบไปหมด

“เจ็บไหม เจ็บหรือเปล่า”

“ม...ไม่เจ็บครับ”

“โชเพิ่มนิ้วนะ”

“...”

“ได้ไหมครับ”

“อื้อ”

โชกุนขออนุญาตเขาแทบจะทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่สัมผัสกัน มาจนถึงขั้นนี้ โชกุนก็เอ่ยถามตลอดว่าให้ทำได้ไหม ทำได้หรือเปล่า ไจ๋เขินอายเกินกว่าจะตอบ อยากให้น้องเลิกใช้น้ำเสียงเซ็กซี่แบบนั้นมาถามกันเสียที อยากทำอะไรก็ทำไปเงียบๆไม่ได้หรือไง!

“อื้อ อย่ากัดพี่ไจ๋แรง”

“ขอโทษครับ” ไจ๋สะดุ้งเล็กน้อยแล้วจึงเอ่ยปากท้วงเมื่อโชกุนอ้าปากกัดช่วงหัวไหล่ พอถูกพี่ไจ๋ปรามก็เลยค่อยๆจูบซับร่องรอยสีชมพูจางๆแผ่วเบา ไจ๋หลับตาปี๋ ซุกหน้าลงกับหมอนใบโตที่กอดอยู่ ปล่อยให้บรรดานิ้วของโชกุนค่อยๆขยับไปมาภายในร่างกายตัวเอง ท้องน้อยรู้สึกปั่นป่วนไปหมด ร้อนผ่าวจนทนไม่ไหว ยิ่งพอโชกุนเลื่อนมืออีกข้างไปลูบไล้หน้าท้องตัวเอง ไจ๋ก็เผลอหดเกร็งโดยอัตโนมัติ หลุดเสียงร้องอู้อี้ออกมาในจังหวะที่โชกุนเริ่มซุกซน ใช้ปลายนิ้วเขี่ยสะกิดยอดอกพี่ไจ๋เบาๆอย่างหยอกล้อ

“อื้อ...”

“พี่ไจ๋ครับ”

“...”

“พี่ไจ๋”

“อะไร”

“จะทำท่านี้จริงๆใช่ไหม”

โชกุนเอ่ยถาม เพราะคิดว่าถ้าหากเริ่มต้นครั้งแรกกันด้วยท่านี้แล้วพี่ไจ๋อาจจะไม่ชอบผลที่ตามมาเท่าไรนัก แต่เขาก็ประเมินความดื้อของพี่ไอ้เจ๋งน้อยเกินไป จนแล้วจนรอดไจ๋ก็ยังจะทำท่านี้ เพียงแค่เพราะไม่กล้าที่จะหันหน้ากลับมามองโชกุนเต็มๆตา ซึ่งโชกุนเองก็เข้าใจดี แม้ว่าในใจลึกๆจะเรียกร้องแทบตาย อยากเห็นสีหน้าของพี่ไจ๋เวลาที่พวกเขาทำเรื่องพวกนี้ด้วยกันก็เถอะ แต่เพราะเข้าใจดีว่าพี่ไจ๋เป็นคนขี้อายมากอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้เขาก็คงจะอายจนทำตัวไม่ถูก พี่ไจ๋ยอมให้เขาขนาดนี้แล้ว วันนี้ตามใจพี่ไจ๋สักอย่างก็ไม่เป็นไรหรอก

ไว้รอบหน้า ค่อยเอาท่าที่ตัวเองชอบก็ได้

“ไม่ต้องเกร็ง หายใจเข้าลึกๆ”

จะไม่ให้พี่ไจ๋เกร็งได้ยังไง! เลิกมากระซิบข้างหูกันแบบนี้ก่อน!

ไจ๋รู้สึกได้ถึงฝ่ามือใหญ่ที่ค่อยๆช่วยจัดแจงท่าทางให้ โชกุนจับสะโพกยกสูงขึ้น ขยับขาทั้งสองข้างให้ออกห่างจากกันทีละนิด แผ่นหลังของไจ๋ถูกกดเบาๆให้ลาดลงตามแนว ไม่ว่าปลายนิ้วของโชกุนจะแตะลงตรงไหนก็เหมือนถูกไฟฟ้าช็อตไปเสียทุกจุด สั่นหงึกๆ ไม่รู้ว่าเพราะความกลัวหรือเพราะตื่นเต้นกันแน่

ไจ๋มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ไม่กล้ามองอะไรทั้งนั้น มีแต่โชกุนที่มองเห็นทุกอย่าง เก็บรายละเอียดทุกอย่างเอาไว้ในหัวจนหมด ไล่ลงมาตั้งแต่ท้ายทอย หัวไหล่แดงๆ แผ่นหลังขาวเนียน จรดบั้นท้ายและรอยจีบสีสวยที่กำลังขยับไปมาทีละนิด

“อ้ะ!...โช โช อย่าเพิ่ง”

“เจ็บเหรอ”

พอเริ่มขั้นตอนต่อมา โชกุนขยับแทรกกายใส่ยังไม่ถึงไหนพี่ไจ๋ก็ร้องออกมา มือข้างหนึ่งผวาเลื่อนมาดันหน้าขาของโชกุนเอาไว้ ท่าทางที่ถูกจัดให้ตอนแรกกำลังเปลี่ยนไป ไจ๋ขยับทีละนิดเพราะเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวนัก หางตามีน้ำตาซึมนิดๆ ไม่ชินเลยกับสิ่งใหม่ที่เพิ่งได้เรียนรู้ โชกุนจึงขยับเข้ามาจนแผ่นอกแนบชิดกับหลังชื้นเหงื่อ โอบกอดกันพลางปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พรมจูบทั่วซอกคอและไหล่ของไจ๋ ค่อยๆหยัดกายเข้ามาทีละนิดอย่างใจเย็น ไม่รีบร้อน ได้ยินเสียงไจ๋ในตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาแล้วที่อาจจะพาพี่เขามาไกลจนเกินไป หรือบางทีพี่ไจ๋อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนี้

เขากัดฟันแน่น รู้สึกได้ถึงแรงบีบรัดมหาศาลจากภายในนั้น ขยับแทบไม่ได้ เท้าแขนทั้งสองข้างลงกับเตียง ไจ๋จึงกอดแขนข้างหนึ่งของน้องเอาไว้ ทำใจกล้า ค่อยๆเอียงใบหน้าทีละนิดเพื่อที่จะมองหน้าโชกุนสักครั้ง

เข้าใจว่าตอนนี้โชกุนเองก็กำลังลำบากใจ ไจ๋พยายามแล้วที่จะปล่อยตัวตามสัมผัสของน้อง แต่บางครั้งร่างกายมันก็ยังไม่คุ้นชินอยู่บ้าง แพขนตาเปียกชื้นขยับขึ้นลงเชื่องช้า ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆขยับเข้าไปใกล้แขนของโชกุนแล้วกดจูบลงไปเบาๆ มือของพี่ไจ๋ลูบไล้แขนข้างนั้นเพื่อปลอบกัน

“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร”

“พี่ไจ๋”

“พี่ไหว ไม่เป็นไร”

หัวใจของโชกุนพองโตไปหมด ก้มลงไปหอมแก้มคนข้างล่างหนักๆ จนกระทั่งรู้สึกได้ว่าไจ๋กำลังผ่อนคลายทีละนิด เขาถึงรู้ว่าตอนนี้ตัวเองคลำมาถูกทางแล้ว ไจ๋ชอบให้กอดให้หอม ยิ่งทำก็ยิ่งเคลิ้มง่ายจนทำให้อาการตื่นตระหนกในตอนแรกลดลงไปเยอะแล้ว โชกุนจึงใช้โอกาสนี้ในการค่อยๆขยับเอวกระแทกเข้าไป ไจ๋ขยุ้มหมอนใบโตแน่น มีบ้างที่จะดิ้นจนหลังโก่ง แต่พอได้ยินเสียงโชกุนเอ่ยปลอบประโลมพร้อมพรมจูบไปทั่วร่างกายก็กลับไปอ่อนยวบอีกครั้ง

“อ้ะ อ้ะ!

ภายในท้องน้อยปั่นป่วนไปหมด ความรู้สึกประหลาดนี้ทำให้ไจ๋ไม่รู้เลยว่าจะพูดอะไร บางอย่างมันเข้ามาลึกเกินไป สัมผัสโดนจุดไหนไจ๋ก็จะขาดใจตายมันตรงนั้น เสียงร้องน่าอายหลุดออกมาเรื่อยๆราวกับกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ไจ๋ค่อยๆยันแขนขึ้น ห้อยศีรษะลงเล็กน้อย มองลอดแผ่นอกตัวเองลงไป เห็นส่วนอ่อนไหวของตัวเองกำลังขยับไปมาตามแรงกระแทก มองเห็นโชกุนกำลังขยับเอวเข้าหากันเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ ทั่วทั้งตัวก็ร้อนรุมไปหมด อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“อ๊า! ฮึก...โช น้องโช”

“ตรงนี้เหรอ”

“โช อื้อ! อื้อ!

ไจ๋ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาสั่นหงึกไปทั่วทั้งตัวเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต โชกุนใช้สองมือใหญ่จับยึดเอวเอาไว้ก่อนที่จะขยับเข้ามาลึกๆ กระแทกย้ำลงบนจุดหนึ่งที่ทำให้ไจ๋ครางไม่หยุด หลับตาปี๋ คล้ายกับทั่วทั้งตัวกำลังสั่น ปลายเท้าทั้งสองข้างจิกเกร็ง ยิ่งทำก็เหมือนโชกุนยิ่งได้ใจ เลยเพิ่มทั้งแรงและความเร็วขึ้นเรื่อยๆ รังแกกันหนักหน่วง ไม่สงสารพี่ไจ๋ที่กำลังน้ำตาซึมเลยสักนิดเดียว

ไจ๋ไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ว่าอย่างไรดี...รู้แค่ว่ามันมาก ดีมากๆ

“อื้ออ!

สักพักก็เหมือนไจ๋จะทนไม่ไหว ของเหลวบางอย่างปะทุออกมาจากกลางกาย หยดแหมะลงบนผ้าที่ปูรองเอาไว้บนเตียง ไจ๋เบ้หน้า สะอื้นไห้ฮักๆ ก่อนที่จะถูกจับให้พลิกตัวนอนหงาย ในตอนนี้เองถึงได้มองเห็นโชกุนเต็มๆตา หัวใจของไจ๋สั่นไหวอย่างรุนแรง เบิกตากว้าง จ้องมองใบหน้าของโชกุนด้วยความเขินอาย ไม่คิดว่าโชกุนคนนั้นจะโตมาเป็นชายหนุ่มที่สุดแสนจะฮอตขนาดนี้

ใบหน้าของโชกุนแดงก่ำ เขาหอบหายใจหนักๆ ดวงตายังเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ร้อนแรง ร่างกายของโชกุนกำยำด้วยกล้ามเนื้อสมเป็นนักกีฬาทีมชาติ หน้าท้องนั่น...ไล่ลงไปจนถึงจุดที่กำลังเชื่อมต่อกัน นั่นยิ่งทำให้ไจ๋ทำอะไรไม่ถูก มือที่วางอยู่บนหน้าท้องตัวเองกำเอาไว้แน่นทันที แอ่นท่อนบนขึ้นจนสันหลังโค้งเมื่อโชกุนหยัดกายกลับเข้ามาอีกครั้ง

พอสายตาประสานกัน วินาทีนั้นหัวใจของไจ๋กระตุกวูบในทันที โชกุนยกยิ้มอันตราย แลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะเสยผมชื้นเหงื่อขึ้นแล้วขยับเอวเข้ามาลึกๆจนไจ๋ต้องเบ้หน้า

โชกุนในตอนนี้ ลบภาพเพื่อนน้องชายผู้สุดแสนจะน่ารักคนเดิมคนนั้นไปหมดแล้ว ไม่มีอีกแล้วหมาน้อยของพี่ไจ๋ มีแต่เสือร้ายที่พร้อมจะขย้ำกันให้แหลกคาเตียง

“อ้ะ โช!

ไจ๋เผลอกัดริมฝีปากตัวเอง โชกุนมองเห็นจึงโน้มตัวลงมาหา มอบจูบอันร้อนแรงให้ จับมือข้างหนึ่งของไจ๋ให้ขยุ้มเส้นผมของตัวเอง หลอกล่อจนไจ๋เคลิ้ม อาศัยจังหวะที่อีกคนเผยอปากสอดลิ้นเข้าไปหยอกล้อ ด้านล่างขยับกระแทกไม่หยุด เหมือนลืมความตั้งใจแรกที่จะอ่อนโยนกับพี่ไจ๋ไปแล้ว ได้ยินเสียงร้องหวานหูหนักๆเข้าเขาก็มีสติหลุดบ้างเหมือนกัน ยิ่งเห็นไจ๋เกร็งหน้าท้องเวลาที่เขาขยับกระแทกลึกๆ ได้เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของไจ๋แล้ว ใครมันจะไปทนไหว

เดิมทีเขาไม่เคยชอบเลยที่เห็นพี่ไจ๋ร้องไห้ แต่ตอนนี้ พอได้เห็นตาฉ่ำวาวของพี่ไจ๋ กลับรู้สึกว่ามันหวานเชื่อมจนละสายตาไปไหนไม่ได้เสียอย่างนั้น

จะว่าเขาโรคจิตก็ได้ แต่เขาชอบเหลือเกินที่ได้เห็นไจ๋บิดตัวเร่าๆเพราะทรมานจากความเสียดเสียวแบบนี้

ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีวันได้เห็นพี่ไจ๋ผู้ใสซื่อกำลังครวญครางตาหวานเยิ้มอยู่บนเตียงของตัวเอง พร้อมร้องเรียกชื่อกันเสียงกระเส่าไม่ขาดปากแบบนี้

“โช...น้องโช”

“...”

“อ้ะ อ้า!

พี่ไจ๋เบ้หน้า มือข้างหนึ่งจับแขนของโชกุนเอาไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างก็ดันหน้าท้องแกร่งของโชกุนเอาไว้เพราะเริ่มจุก โชกุนใช้แรงเยอะขนาดนี้กะจะเอาให้เขาตายคาเตียงเลยใช่ไหม

ไจ๋รู้สึกว่าตัวเองอาจจะคิดผิดแล้วที่จะตามใจน้องในวันนี้ เพราะโชกุนคิดอยากจะเปลี่ยนท่าก็ทำตามใจตัวเองโดยที่ไม่บอกกันเลย สักพักเรียวขาทั้งสองข้างของไจ๋ก็ถูกจับยกขึ้น โชกุนกอดรวบมันเอาไว้แนบแผ่นอกตัวเองแล้วกระแทกเข้ามารัวๆ จนแล้วจนรอด ไจ๋ก็กระตุกสั่นไปทั้งตัวแล้วปลดปล่อยบางอย่างออกมาจนเลอะหน้าท้องตัวเองอีกครั้ง เป็นสองรอบที่สูบเรี่ยวแรงของไจ๋ไปจนหมด อ้าปากหอบคราง เผยให้เห็นเรียวลิ้นสีสดตัดกันกับฟันขาวๆ ภาพนั้นช่างดูอีโรติกอย่างน่าประหลาดในสายตาของคนมอง โชกุกัดฟันแน่นเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบรัดหนักๆ เขาอยากได้มากกว่านี้ ต้องการมากกว่านี้

“อื้อ! ย..ยังอีกเหรอ อ้ะ! พี่ไจ๋เหนื่อยแล้ว เหนื่อยแล้ว”

ขาข้างหนึ่งของไจ๋ถูกมือใหญ่จับกดลงกับเตียง ส่วนอีกข้างยังคงค้างอยู่บนไหล่แกร่ง โชกุนเอียงหน้าซบลงบนนั้นก่อนจะอ้าปากลากลิ้นเลียตามความยาวน่อง ไจ๋ได้แต่นอนตาโต ใจสั่นกับท่าทางเช่นนั้น ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอกระตุกตอดรับเจ้าสิ่งที่อยู่ภายในตัว

 ดวงตาของโชกุนวาววับ เริ่มทำการเอาแต่ใจอีกครั้งและอีกครั้ง ไจ๋ตาปรือปรอยไปหมด ร้องครางจนเสียงแหบ สองมือขยุ้มผ้าปูจนยับยู่ยี่ เส้นผมกระเซอะกระเซิงไม่ต่างอะไรกับโชกุนในตอนนี้ ทั่วทั้งเรือนร่างปรากฏร่องรอยเป็นจุดๆอันเกิดจากการที่โชกุนขบกัดลงมา ร้องท้วงไปน้องก็ไม่สน โดยเฉพาะยอดอกที่ถูกรังแกหนักที่สุด มันถูกดูดดึง บดขยี้จนไจ๋แอบรู้สึกเจ็บตึง รอบๆนั่นมีรอยฟันอย่างเห็นได้ชัด หน้าท้องของไจ๋เปรอะไปด้วยของเหลวจำนวนมากเนื่องจากเก็บกดเอาไว้นานพอสมควร ครั้งนี้ได้ฤกษ์ปลดปล่อยมันก็ออกมาเต็มที่

ไจ๋ไม่รู้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองและโชกุนจะสุขสมไปกี่ครั้ง แต่มันก็เหมือนยังไม่พอสำหรับพ่อนักกีฬาหนุ่มคนนั้น ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ความอยากของโชกุนในครั้งนี้มากมายเหลือเกิน เปลี่ยนท่าไปไม่รู้ตั้งเท่าไร จนในที่สุดไจ๋ก็ถูกพลิกให้มานั่งอยู่ด้านบน นั่งทับโชกุนที่กำลังนั่งอยู่เช่นกัน ใบหน้าของน้องอยู่ตรงหน้าอกพอดี เขาจึงใช้ลิ้นในการบดขยี้ยอดอกสีก่ำของไจ๋ย้ำๆ คนอายุมากกว่าแทบจะไม่เหลือแรงขยับตัวอีกแล้ว ยกสะโพกได้ไม่กี่ครั้งก็ทรุดตัวลง ซบคาอกแกร่งชื้นเหงื่อของน้องอย่างคนหมดแรง

“พอแล้ว พอแล้วนะ พอเถอะ พี่ไจ๋เหนื่อย ไม่ไหวแล้ว...”

โอดครวญอย่างลืมอาย ไม่สนแล้วว่ามันจะดูน่าขำขนาดไหนทั้งที่ตัวเองอายุมากกว่าแท้ๆแต่กลับเอ่ยปากขอร้องบอกพอแล้วซ้ำๆเพราะเหนื่อย ไม่มีแรง ไม่มีอะไรจะให้โชกุนรีดเค้นออกมาจากร่างกายอีกแล้ว

“ครับ พอแล้ว วันนี้พอแค่นี้”

ยังดีที่ครั้งนี้โชกุนยอมรับฟังคำขอร้องของไจ๋ น้องโอบกอดเอาไว้ แช่กายใหญ่ภายในช่องทางด้านหลัง อิดออดไม่ยอมเอาออก จนไจ๋ต้องสะอื้นงอแงออกไป โชกุนถึงได้ยอมผละออกให้ มันรู้สึกโล่งวาบไปหมด ในท้องน้อยว่างเปล่า ไจ๋หน้าแดงแจ๋เมื่อได้เห็นถุงยางอนามัยเต็มไปด้วยของเหลวสีขาวที่ออกมาจากตัวโชกุน อายจนต้องซุกหน้าหนีเข้าแผ่นอกของโชกุน พวกเขาทั้งคู่โอบกอดกันและกัน ลูบแผ่นหลังของพี่ไจ๋เบาๆไม่กี่ที ก็เหมือนกับไจ๋กำลังแน่นิ่งไปแล้ว

“จะหลับแล้วเหรอครับพี่ไจ๋”

“อือ...”

“เหนื่อยมากเลยใช่ไหม”

“อือ...”

“พี่ไจ๋ครับ”

“อื้อ...พี่ง่วงแล้ว”

“พี่ไจ๋”

“...”

“โชรักพี่ไจ๋มากนะ รู้ไหม”

“...เหมือนกัน”

“อะไรเหมือนกัน”

“พี่ไจ๋ก็รักน้องโชมากๆเหมือนกันครับ อื้อ...”

“ขยันทำตัวน่ารักจังนะ”

โชกุนไม่รู้แล้วว่าจะหาคำไหนมาชมพี่ชายไอ้เจ๋ง วันนี้พี่ไจ๋ทำตัวน่ารักมากเกินไปจริงๆ

เขาปล่อยให้ไจ๋นอนพัก ส่วนตัวเองก็กลับออกไปอาบน้ำใหม่อีกรอบ กลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าเช็ดตัว พยายามจะข่มใจไม่ให้รู้สึกอะไรอีกกับภาพตรงหน้า พี่ไจ๋นอนตะแคงข้างกอดเสื้อผ้าของเขาที่ถูกถอดทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนเริ่ม ซุกหน้าลงไปแล้วผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น โชกุนยกมือขึ้นลูบหน้าเรียกสติ ตั้งใจโฟกัสกับการเช็ดตัวทำความสะอาดให้คนที่กำลังหลับอยู่ มือลากผ่านลงต่ำเรื่อยๆ ช่วงล่างตัวเองที่เคยสงบไปก็กลับมารู้สึกอึดอัดอีกครั้ง จนแล้วจนรอดก็ต้องวิ่งกลับไปห้องน้ำ กว่าจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้ กว่าจะล้มตัวลงนอนอย่างสงบใจก็กินเวลาไปชั่วค่อนคืนเลยทีเดียว

นอนมองเสี้ยวหน้าของไจ๋ที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมา ลมหายใจพรูเข้าออกสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าตอนนี้ไจ๋คงเหนื่อยมากจริงๆ เขาขยับเข้าไปใกล้แล้วใช้วงแขนกระชับเอาไว้ โอบกอดแล้วส่งผ่านไออุ่นเข้าไปหา หวังช่วยกล่อมให้พี่ไจ๋นอนหลับฝันดี ขอบคุณในใจนับครั้งไม่ถ้วนให้กับสิ่งที่พี่ไจ๋เพิ่งจะมอบให้กันในคืนนี้

ปลายนิ้วลากไปตามกรอบหน้าของพี่ไจ๋แผ่วเบา อดชื่นชมเครื่องหน้าของพี่ไจ๋ไม่ได้ เขานอนมองทั้งวันไม่มีเบื่อ ไม่เคยรู้สึกว่าไจ๋เป็นคนที่ไร้เสน่ห์เลย ดวงตากลมโพ แพขนตาหนา ปลายจมูกนุ่มนิ่มน่ารัก กับริมฝีปากที่มีแต่คำพูดน่าฟังหลุดออกมา ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังหลงใหลในตัวคนคนนี้มากขึ้นทุกที

ไอ้เจ๋งมันเอาผงพิกซี่มาเลี้ยงพี่ไจ๋หรือไงวะ ทำไมโตมาน่ารักขนาดนี้

อา...ให้ตายสิ

นี่มึงยังสงบไม่ลงอีกเหรอโชกุน วันนี้จะได้นอนไหม ห้ะ

 

To be continued

#จิ๋วแต่ไจ๋

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

[NC] #จิ๋วแต่ไจ๋ CHAPTER 25

 

25

 

#จิ๋วแต่ไจ๋

 

        ไจ๋ไม่รู้แล้วว่าจะอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ว่าอย่างไรดี เขาไม่รู้แล้วจริงๆ

        อากาศในห้องควรจะเย็นสบายอย่างที่คิดเอาไว้ แต่กลับร้อนรุ่มไปหมดจนทำตัวไม่ถูก เหงื่อซึมออกตามผิวกาย เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูกลายเป็นของน่าหงุดหงิดไปเสียแล้ว

        จุดเริ่มต้นของบรรยากาศภายในห้องที่เปลี่ยนไป...น่าจะเริ่มต้นมาจากจูบในตอนนั้น จูบที่ร้อนแรงที่สุดเท่าที่ไจ๋เคยได้รับ จูบแรก จากความรักครั้งแรกของเขาเอง

        “อ..อื้อ”

          เสียงประหลาดหลุดออกมาจากริมฝีปากของไจ๋ครั้งแล้วครั้งเล่า มึนเบลอไปหมดด้วยจดจ่ออยู่แต่กับการรับสัมผัส ไล่ตามอีกคนให้ทัน ลมหายใจของไจ๋ร้อนผ่าวไม่ต่างอะไรกับร่างกายของเขาในตอนนี้ ตรงหน้าเป็นเงาดำใหญ่คร่อมทับลงมา ขยับป้วนเปี้ยน แตะไต่ร่างกายตามใจ ราวกับกำลังสอนบทเรียนบทใหม่ให้ไจ๋ได้เรียนรู้ พออ้าปากเล็กน้อย เปิดช่องโหว่เพียงนิด ก็ถูกเรียวลิ้นร้อนชื้นแทรกสอดเข้ามา พัวพันจนไจ๋ยิ่งคิดอะไรไม่ออก สองมือคล้องลำคอของอีกคนอย่างอ่อนแรง ตัวเหลวไปกับที่นอน จนต้องถูกประคองให้นอนลงไปกับเตียงเชื่องช้า เส้นผมสีดำแผ่สยายไปกับมัน ดวงตาของไจ๋หวานเชื่อมไปด้วยแรงอารมณ์ ชวนให้รู้สึกชวนมองกว่าครั้งไหนๆ

        “โช...โช พี่ไจ๋หายใจไม่ทัน อึก...”

        เจ้าของชื่อยอมผละริมฝีปากออกให้ตามคำขอ พี่ไจ๋คนเก่งนอนหายใจสะดุดอยู่ใต้ร่าง สีหน้าราวกับคนโดนกลั่นแกล้งรังแกกลับทำให้โชกุนต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสัมผัสอย่างอ่อนโยนและแผ่วเบา ทั้งๆ ที่ภายในใจกลับอัดแน่นไปด้วยความตื่นเต้น ข่มใจค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

        แผนยอมอ่อนโยนให้ดูเหมือนจะได้ผล ไจ๋กลับมาเคลิบเคลิ้มตามอีกครั้งอย่างว่าง่าย ปรับเอียงใบหน้าให้เล็กน้อยด้วยเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับโชกุน ลมหายใจร้อนๆ กลับเจือกลิ่นหอมเย็นอันเป็นกลิ่นเฉพาะของโชกุน สองมือเลื่อนลงต่ำ ขยุ้มเสื้อแถวๆ หน้าท้องตัวเองเอาไว้แน่น คล้ายกับกำลังอดทนกับความร้อนที่เริ่มไต่ลงไปด้านล่างนั่น ในตอนนั้นเองที่โชกุนลืมตาขึ้น กดสายตาลงเล็กน้อย มองดูไจ๋ที่กำลังบิดกายเร่าๆ ราวกับกำลังอึดอัดและทรมานจากปฏิกิริยาบางอย่างของร่างกาย

        เขาช้อนตาขึ้นมองดูคนพี่ ผละออกเล็กน้อย ปล่อยให้ไจ๋ได้พักเสียบ้างหลังจากตะโบมจูบนัวเนียนมาเกือบสิบนาที มือหนาบีบเค้น ลูบไล้ไปทั่วร่างกายของไจ๋ เสื้อผ้าที่หลวมโคร่งอยู่แล้วจึงเขยื้อนจนเผยให้เห็นผิวกายใต้ร่มผ้าอย่างหมิ่นเหม่ ไจ๋นอนกำมือแน่น ใจสั่นกับการที่โชกุนค่อยๆ ถอยร่นลงไปด้านล่าง จับเรียวขาทั้งสองข้างที่ตั้งชันอยู่ให้แยกออกจากกัน หัวใจสั่นโครมคราม เสี้ยวหน้าของโชกุนในตอนนี้ดูร้ายกาจและอันตรายกว่าปกติเป็นเท่าตัว

        และวินาทีที่โชกุนทำท่าจะดึงกางเกงนอนออกไป ไจ๋ก็เลื่อนมือสั่นๆ ไปจับไหล่น้องเอาไว้ทันที

        “โช...โชจะทำแบบนั้นเหรอ”

        “กลัวเหรอ”

        “อื้อ มัน...เร็วไป พี่ไม่พร้อมจริงๆ”

        “ใจเย็นๆ”

           โชกุนเอ่ยปลอบเสียงเบา แนบใบหน้าลงกับขาข้างหนึ่ง ฝ่ามือใหญ่ลูบสะโพกของไจ๋ไปมา หวังว่าจะช่วยให้ไจ๋ใจเย็นลงมาบ้าง ต้องทวนตัวเองเอาไว้เสมอว่าไจ๋กำลังตกใจ รับมือไม่ถูก ตั้งตัวไม่ทัน เขาเองก็ยอมรับว่ารุกรุนแรงเกินไป คนอย่างไจ๋ก็คงช็อกเป็นธรรมดา จึงเลือกที่จะลูบไปมาเบาๆ หวังช่วยให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย ซึ่งก็เป็นดังคาด มือที่เคยกำเสื้อจนแน่นคลายลงมาบ้างแล้ว

        “พี่ไจ๋ขอโทษ...แต่พี่ไจ๋ยังไม่พร้อมครับ ขอโทษนะ”

        “ไม่ต้องขอโทษหรอก มันไม่ใช่ความผิดของพี่ ทางนี้ต่างหากที่ต้องขอโทษ ใจร้อนเอง”

           “ไม่...คือ เป็นพี่ไจ๋เอง พี่ไจ๋ตามไม่ทันเอง”

        “พี่ไจ๋”

        “อื้อ...”

        “พี่ไจ๋ครับ”

        “พี่ไจ๋ฟังอยู่”

        “ชอบกันจริงๆ ใช่ไหม”

        “...”

        “แค่อยากมั่นใจ”

        “พี่พูดไปแล้ว...น้องโชต่างหากที่ไม่เคยบอกอะไรพี่เลย”

        “พี่”

        “พี่ไจ๋ก็กลัว”

        “...”

        “พี่ก็กลัว...ถ้าเกิดเราทำแบบนี้แล้วน้องโช...”

        “โชชอบพี่ไจ๋”

           “...!”

        “ชอบพี่ไจ๋มากๆ”

        “...”

        “ชอบมากจริงๆ”

            ไจ๋กลับมาอึ้งอีกรอบที่ได้ยินคำสารภาพพวกนั้นออกมาจากปากของโชกุนจริงๆ ใจที่เคยสงบไปกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงอีกครั้งจนได้ วันนี้เจอแต่เรื่องชวนช็อก ชวนตกใจไปไม่รู้ตั้งกี่เรื่องแล้ว ต่อให้ไจ๋จะซื่อ จะตามคนไม่ค่อยทันไปบ้าง แต่เพราะเรื่องนี้ บางทีโชกุนก็ทำมันจนเกินเลยกว่าปกติ ชวนให้คิดไปไกลหมื่นแสนล้านอย่าง แต่บางทีก็ไม่พูดอะไร ไม่ทำอะไรชัดเจน คลุมเครือจนไจ๋กลัว สุดท้ายก็เลยยังพะว้าพะวงอยู่อย่างนั้น

        แต่ครั้งนี้...พวกเขาทั้งคู่ต่างก็แสดงความชัดเจนออกมาพร้อมกันแล้ว

        โชกุนเงยหน้า มองดูสีหน้าของไจ๋ ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดไปเองหรือเปล่า รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายกำลังยิ้มเล็กน้อย พอรู้ตัวว่าถูกจ้องอยู่ก็รีบดึงมือข้างหนึ่งขึ้นไปปิดหน้าตัวเองเอาไว้อย่างเขินอาย โชกุนจึงหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ บรรยากาศจึงผ่อนคลายขึ้นมาทันที โชกุนขยับกลับขึ้นไปหา ดึงมือของไจ๋ออกแล้วจูบลงบนริมฝีปากเบาๆ ไม่ได้รุกล้ำอะไร ก่อนจะแตะค้างเอาไว้ที่กลางหน้าผากของไจ๋อีกสักพัก จ้องมองดวงตากลมโตคู่นั้นด้วยความรักใคร่

        “เจ๋งมันมาขวางก็ไม่ยอมแล้วนะ”

        “พี่ไจ๋จะพูดกับน้องเจ๋งให้นะครับ”

        “จริงนะ”

        “อื้อ”

        “พูดแล้วนะ”

        “ครับ พี่ไจ๋จะพูดกับน้องเจ๋งให้อีกแรง”

        “มันต้องโมโหมากแน่ๆ ที่โชกลายเป็นแฟนพี่มัน”

        “ก็...นะ...น้องโช น้องโชๆๆๆๆ”

        “เขินอะไร”

        “ฮื่อ”

        “แล้วจะให้เป็นเพื่อนไอ้เจ๋งต่อเหรอ จูบกันจนลิ้นเปื่อยเนี่ย”

        “พอแล้ว พอแล้วครับ”

        ไจ๋แทบจะทนไม่ไหวอยู่รอมร่อ ไม่รู้ว่าโชกุนคนขี้แกล้งกลับมาตั้งแต่เมื่อไร พูดจาอะไรออกมาแต่ละคำก็ทำเอาเขากระดากอาย เก้อเขินไปหมดจนทำตัวไม่ถูก แอบได้ยินเสียงน้องหัวเราะด้วย! ท่าทางของพี่ไจ๋ตอนนี้คงจะดูน่าตลกมาสินะในสายตาของโชกุนน่ะ

    ไจ๋คิดแบบนั้น แต่สำหรับโชกุนแล้ว มันกลับกันเลยต่างหาก

        พี่ไจ๋ในตอนนี้....น่ารักที่สุดแล้วล่ะ

        “พี่ไจ๋”

        “อื้อ...”

        “รู้ใช่ไหมว่าพี่จะปล่อยมันไว้แบบนี้ไม่ได้”

        อุตส่าห์ว่าจะลืมๆ มันไปแล้ว แต่โชกุนก็ยังลากกลับมาให้ได้อายกับประเด็นเดิมๆ ไจ๋นอนหน้าแดง ตัวแดงแจ๋ ร้อนไปหมด ก้มลงมองดูกลางกายตัวเองเล็กน้อย เป้ากางเกงตัวนอนของโชกุนนูนขึ้นมาจนทำให้รู้สึกอาย กำลังจะหนีบขาหนี แต่ก็ถูกมือหนาจับแยกออกอีกครั้ง พลิกตลบกันไปมา ยื้อยุดกันอยู่ไม่นาน กางเกงตัวนั้นก็ถูกเจ้าของทวงคืน อากาศเย็นๆ จากเครื่องปรับอากาศแวะเข้ามาทักทายผิวกายทันที

        “พ..พี่ไจ๋ทำเอง พี่ไจ๋ทำเองครับ”

        “เคยทำ?”

        “...”

        “จริงเหรอ”

        พูดอะไรออกไปก็เหมือนกับไจ๋กำลังขุดหลุมฝังตัวเองไปเสียหมด แค่นอนอ้าขาให้โชกุนก้มลงมองดูเจ้านั่น แค่นี้ก็ยังน่าอับอายไม่พอหรืออย่างไรกัน!

        ก็...ไม่ใช่ว่าไม่เคย มันก็ต้องมีบ้าง แต่ก็ลองแค่ไม่กี่ครั้งในชีวิต โตมาจนอายุป่านนี้แล้ว มันก็ต้องเคยดูหนังผู้ใหญ่ เคยมีอารมณ์บ้างเป็นปกติตามวัยอยากรู้อยากลอง เคยแตะต้องมันอยู่ พี่ไจ๋ก็เรียนสุขศึกษามาเหมือนกันนะ!

        “พี่ไจ๋บอกว่าจะทำเองใช่ไหม”

        “...”

        “งั้นทำ”

        “ลุกสิ...พี่จะไปได้ไปเข้าห้องน้ำ”

        “ไม่”

        “...”

        “ทำมันตรงนี้”

        “...”

        “จะดู”

        ใครก็ได้ ใครก็ได้ เรียกรถพยาบาลให้พี่ไจ๋ที พี่ไจ๋ว่าพี่ไจ๋ไม่ไหว พี่ไจ๋จะหัวใจวายตายอยู่แล้ว จะชักตายคาเตียงอยู่แล้ว

        โชกุนคนขี้แกล้งกลับมาประทับร่างอีกครั้ง ใช้แววตาเจ้าเล่ห์จ้องมองกัน จับขาของไจ๋เอาไว้ราวกับไม่อยากให้ลุกหนีไปไหนเพราะกลัวจะไม่ได้เห็นอะไรที่ตัวเองอยากจะเห็น ไจ๋โดนแกล้งครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่เคยเข็ด ไม่เคยจำ เรื่องพวกนี้ยังตามโชกุนไม่ทันอยู่ร่ำไป นี่เป็นครั้งแรกเลยที่อยากจะทุบโชกุนแรงๆ สักที โทษฐานแกล้งกันหนักขนาดนี้

        “ให้พี่ไจ๋ไปเข้าห้องน้ำเถอะนะ นะครับ อย่าแกล้งพี่ไจ๋เลย”

        “แค่ช่วยตัวเอง ไม่ต้องอายหรอก”

        “มันไม่ใช่เรื่องน่าดูสักหน่อย”

        “เร็วๆ”

        “น้องโช...”

        “ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวทำให้นะ”

        “!!”

        เนี่ย! เอาน้องโชคนดีคนเดิมของพี่ไจ๋กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!

        ขอไปเท่าไรโชกุนก็ไม่ยอมปล่อยกันไปง่ายๆ เบะปากให้ก็แล้ว อ้อนก็แล้ว โชกุนในตอนนี้เหมือนแมวทอมในเรื่องทอมแอนด์เจอร์รี่ที่กำลังคอยตะปบหางหนูเอาไว้ ไม่ให้หลุดรอดไปจากอาณาจักรของตัวเองได้ บางทีก็ยื่นนิ้วมาจิ้มๆ เขี่ยๆ จนไจ๋ต้องตีมือน้องทันที แต่แทนที่จะสลดใจกลับยกยิ้มเอ็นดูเสียอย่างนั้น น้อยครั้งที่ไจ๋จะขมวดคิ้วมุ่น ทำหน้าตาเหมือนอยากจะหยิกใครสักคน เห็นแล้วก็อยากจะแหย่ให้มากกว่านี้เสียจริง

        พอรู้ตัวว่าทำยังไงก็หนีไม่รอด ถูกต้อนขนาดนี้แล้ว ไจ๋อึกอัก ก้มหน้าก้มตา ไม่มองโชกุนอีก ทำทีเป็นเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มมาคลุมช่วงล่างตัวเองเอาไว้ พลิกตัวนอนตะแคงเล็กน้อย แล้วหลับตาลง ใช้มือข้างเล็กในการสัมผัสร่างกายตัวเอง กลั้นเสียงเอาไว้สุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้มีอะไรน่าอายไปมากกว่านี้

        โชกุนกวาดสายตามองดูการเคลื่อนไหวเล็กๆ ใต้ผ้าห่มนั้น ปลายเท้าของไจ๋ที่โผล่ออกมาเดี๋ยวจิกเกร็งเดี๋ยวคลาย สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงอารมณ์ เสียงหอบหายใจแว่วมาให้ได้ยินชวนให้คนฟังเองก็รู้สึกร้อนรุ่มไม่ต่างกัน โชกุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กลืนน้ำลายลงลำคอแห้งผาก ขยับเข้าไปใกล้ จับปลายคางของไจ๋ให้หันกลับมาหาตัวเอง ประกบริมฝีปากจูบลงไปช้าเนิบ เดี๋ยวก็แลบลิ้นเลีย เดี๋ยวก็บดขยี้ให้หัวใจของพี่ไจ๋สะท้านเล่นๆ อาศัยจังหวะที่ไจ๋กำลังเคลิบเคลิ้มในการสอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่ม สัมผัสเข้ายังส่วนอ่อนไหวของไจ๋ที่ตอนนี้กำลังร้อนชื้น ปลายนิ้วบดขยี้เบาๆ เสียงครางหวิวน่าฟังก็หลุดมาให้ได้ยินทันที

        “อ...อ้ะ”

        เสียงพี่ไจ๋ครางช่างน่าฟัง ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้แตะต้องร่างกายของไจ๋แบบนี้ เรียวขาสั่นๆ หนีบเอาไว้แน่นจนแทบจะขยับมือไม่ได้ โชกุนเลยตะโบมจูบไปทั่วอีกครั้ง ซุกไซ้ซอกคอออย่างเอาแต่ใจ ลากลิ้นเลียผิวกายร้อนๆ ช่วงนั้น พรมจูบถ้วนทั่ว ก่อนจะวนกลับมาประทับริมฝีปากแนบแน่น อ้าปากส่งเรียวลิ้นกวาดต้อนไปด้านใน หยอกล้อกับลิ้นเล็กๆ ของพี่ไจ๋ที่เผลอขยับตอบโต้ตามกันอย่างเงอะๆ เงิ่นๆ ลมหายใจของไจ๋สะดุดไป ไม่เป็นจังหวะ มีบ้างที่โชกุนผละออกเพื่อที่จะรอฟังเสียงหวานๆ อันสุดแสนจะหายากแบบนี้

        “อื้อ...อ้ะ”

        “...”

        “อ้ะ..โช น้องโช”

        “ครับ”

        “น้องโช...อื้อ”

        “ว่ายังไงครับ”

        “โช...”

        “...”

        “จูบพี่ไจ๋หน่อย...ได้ไหม”

        เอ่ยขอเสียงสั่น พร้อมใช้แววตาฉ่ำวาวจ้องมองกันแบบนี้ มีหรือที่โชกุนจะปฏิเสธ โน้มหน้าลงไปหาพร้อมรอยยิ้มบาง เสียงจูบเฉอะแฉะน่าอาย แต่ไม่มีใครสนใจมันอีกแล้ว ไจ๋ในตอนแรกมีความเขินอายเกินกว่าที่จะรับไหว แต่พอถูกสัมผัสมากเข้าก็เคลิบเคลิ้ม ปล่อยตัวปล่อยใจให้โชกุนควบคุมมันทั้งหมด ถูกจับพลิกกลับมานอนหงาย ผ้าห่มที่เคยใช้คลุมร่างถูกดึงออก เรียวขาที่เคยหนีบแขนแกร่งของน้องเอาไว้แน่น ตอนนี้อ้าออกกว้าง สะโพกเผลอขยับสวนจังหวะของฝ่ามือนั้น ชายเสื้อยืดตัวโคร่งถูกเลิกขึ้นจนกองเหนือแผ่นอก เผยให้เห็นเรือนร่างอันดูดีของเจ้าตัว จนทำให้โชกุนต้องกวาดสายตามองเพื่อบันทึกภาพเอาไว้ในหัวทุกจุด

        ไจ๋ไม่ได้เป็นผู้ชายตัวผอม บอบบางจนเห็นก้างกระดูก เขาเป็นนักกีฬา ถึงจะตัวเล็ก แต่ก็มีกล้ามเนื้อ บ่งบอกถึงความแข็งแรง หน้าท้องปรากฏร่องเล็กๆ ประดับเอาไว้แลดูสวยงาม ปลายนิ้วร้อนลากผ่านไจ๋ก็หดเกร็ง มืออีกข้างก็ยังยุ่งอยู่กับการขยับชักนำส่วนอ่อนไหว จ้องมองดูไจ๋ในตอนนี้ ที่กำลังยกมือปิดหน้าปิดตาตัวเอง สะโพกสั่นกระตุกเป็นระยะๆ อย่างน่าเอ็นดู เดี๋ยวก็ถดหนี เดี๋ยวก็ขยับเข้าหา สู้มืออย่างน่ารัก

        ในตอนนั้นเองที่ดวงตาของโชกุนสว่างวาบ หลุบตาลงมองดูเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือตัวเอง ภาพจากหนังผู้ใหญ่ที่เคยดูวิ่งเข้ามาทักทายทันที

        “อ..อื้อ! อื้อ! โช...น้องโช อ้ะ!”

        จากที่เคยปิดหน้าปิดตาหนีด้วยความเขินอาย ตอนนี้กลับต้องยอมกลับมาจ้องมองดูภาพตรงหน้าอีกครั้ง ไจ๋ผวาเฮือก ปลายเท้าจิกเกร็งสุดๆ สองมือเลื่อนไปขยุ้มเส้นผมที่ปัดป่ายไปมาอยู่ตรงระหว่างขาตัวเอง สัมผัสร้อนชื้นกำลังทำให้ไจ๋เหมือนจะหัวใจวายตาย น้ำตารื้นลงมาหนึ่งหยดด้วยความรู้สึกประหลาดที่ปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อย สองมือใหญ่ของโชกุนบีบขย้ำสะโพกเอาไว้แน่นจนน่ากลัวว่าจะขึ้นรอยมือแน่ๆ ไจ๋อ้าปากหอบคราง ส่งเสียงประหลาดออกมาไม่หยุดเหมือนลืมไปแล้วว่าต้องกลั้นเอาไว้ หน้าท้องหดเกร็งเป็นระยะ ถูกโชกุนครอบครองส่วนอ่อนไหวกลางกายเอาไว้ด้วยโพรงปากและเรียวลิ้น ไม่นานก็เหมือนถูกอย่างถูกรีดไปรวมไว้ที่จุดเดียว ไจ๋หลับตาปี๋ อยากจะดึงโชกุนออก แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

        “ฮะ...ฮึก โช น้องโช”

        สะอื้นเสียงแผ่วออกมาเมื่อทุกอย่างเคลื่อนผ่านไปเสี้ยววินาที ไจ๋ค่อยๆ ทิ้งตัวลงนอนกับเตียงอย่างคนหมดแรง เหนื่อยอ่อนเสียยิ่งกว่าไปลงแข่งยูโดสนามไหนๆ สองมือเลื่อนมากุมหน้าท้องตัวเองเอาไว้ ปล่อยให้โชกุนค่อยๆ ผละออกไปเชื่องช้า อีกฝ่ายนั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ไจ๋นอนมองด้วยหัวใจสั่นๆ ต้องเม้มปากแน่นเมื่อได้สบตากับโชกุน มองเห็นเรียวลิ้นค่อยๆ แลบออกมากวาดต้อนคราบบางอย่างตรงมุมปากกลับเข้าปาก ก็อยากจะกดระเบิดตัวเองให้แหลกไปเสียเดี๋ยวนั้น

        เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่ายังดังมาเป็นระยะ ไจ๋กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มองดูโชกุนค่อยๆ จับขายกขึ้นเพื่อสวมใส่กางเกงขายาวให้กลับคืน แล้วจัดท่าทางให้นอนหงายไปกับเตียง หยิบหมอนมาช่วยวางรองใต้ศีรษะให้ ดึงผ้าห่มมาคลุมให้ ปล่อยให้คนพี่นอนตาปรือพร้อมจะหลับตลอดเวลาแบบนั้น ใบหน้าของไจ๋ยังคงแดงก่ำ ริมฝีปากบวมเจ่อเผยอสั่นระริก ชวนให้คนมองต้องนึกถึงเสียงครางหวานๆ เมื่อครู่นี้ ต้องรีบหันหน้าหนี ข่มใจไม่ให้เสียสติไปมากกว่าที่เป็นอยู่

        “น้องโช...”

        “นอนซะ”

        “จะไปไหน”

        “เดี๋ยวมา”

         “...”

        “เดี๋ยวกลับมา นอนรออยู่ตรงนี้แหละ”

        “แต่...”

        “ถ้ายังไม่นอน จะไม่ให้นอนแล้วนะ”

         แล้วใครมันจะกล้าไปรั้งต่อกันเล่า! เล่นขู่มาแบบนี้ได้ยังไงกัน

           ไจ๋ปล่อยให้คนน้องหายไปเข้าห้องน้ำ ส่วนตัวเองก็ยังนอนกำผ้าห่มแน่น รู้สึกเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เป็นความฝัน แต่สัมผัสร้อนผ่าวทั่วกายยังย้ำเตือนให้รู้ว่านี่คือความจริง ความจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ความจริงที่ว่าเขากับโชกุนต่างสารภาพความในใจต่อกันและกัน ความจริงที่ว่าพวกเขาทั้งคู่จูบกันอย่างหวานชื่นดูดดื่ม และความจริงที่ว่าโชกุนใช้ริมฝีปาก.... ทั้งหมดล้วนเป็นความจริงแสนน่าอายที่ไจ๋เองก็แทบจะรับไม่ไหว วันนี้เจอแต่เรื่องชวนใจเต้นโครมครามไม่หยุด ไม่รู้ว่าจะต้องโทษใครดีระหว่างเด็กหนุ่มคนนั้นที่รุกกันแรงเกินไป หรือต้องโทษที่หัวใจของตัวเองอ่อนแอปวกเปียกแบบนี้

        ไจ๋สู้โชกุนไม่ได้เลย ไม่ได้เลยสักนิดเดียว จะเอาอะไรไปชนะเขาได้

        แปลว่า...หลังจากนี้น่ะ ทั้งเขาทั้งโชกุน ก็ไม่ใช่แค่พี่น้องเจ๋ง กับเพื่อนน้องเจ๋งกันอีกแล้วสินะ

 

        “พูดแล้วนะ”

        “ครับ พี่ไจ๋จะพูดกับน้องเจ๋งให้อีกแรง”

        “มันต้องโมโหมากแน่ๆ ที่โชกลายเป็นแฟนพี่มัน”

        “ก็...นะ...น้องโช น้องโชๆๆๆๆ”

 

            โอ้ยๆๆๆ น้องโชทำไมร้ายกาจแบบนี้ล่ะเนี่ย ทำไมถึงแกล้งพี่ไจ๋แรงขนาดนี้ด้วย

            นอนใจสั่นอยู่อย่างนั้น คิดวุ่นวายไปมากมายหลายพันประการ ก่อนที่ความง่วนงุนจะเข้ามาทักทาย ดวงตาปรือปรอบค่อยๆ หลับลงเชื่องช้า สัมผัสสุดท้ายที่รับรู้ได้คืออ้อมกอดอุ่นๆ ที่ดึงตัวเองให้เข้าไปหา โอบกอดเอาไว้แน่นๆ รวมไปจนถึงไออุ่นร้อนเบาบางที่ประทับลงกลางหน้าผาก คล้ายมีฝ่ามือลูบไล้ศีรษะตัวเองเล็กน้อยจนยิ่งทำให้รู้สึกเคลิ้ม ปล่อยให้สติอันน้อยนิดค่อยๆ หลุดลอยออกไปไกลแสนไกล จมอยู่ในห้วงนิทราอันอบอุ่นนั้นแต่โดยดี

        เหมือนลืมอะไรไปสักอย่าง

        ในตอนที่ทำเรื่องนั้นกันน่ะ....โชกุนไม่กลัวเสียงฟ้าผ่าเลยจริงๆ น่ะเหรอ แปลกจัง

 

 

To be continued

#จิ๋วแต่ไจ๋

https://twitter.com/littleskyofme

 

 

 

 

x

วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2564

[NC!] ชายตั้ม | บทที่ยี่สิบสอง (22)

ชายตั้ม  : บทที่ยี่สิบสอง

-------------------------

ต่อจากในเว็บ


ดวงตาคู่สวยช้อนมองในยามที่เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ชายตั้มตอนนี้โดนมอมเมาด้วยเสน่ห์ของอีกฝ่ายจนถอนตัวไม่ขึ้น แม้จะยังมีความกังวลในใจ แต่พอได้สัมผัส ได้ลูบไล้ร่างกายตรงหน้า ก็ราวกับจิตอกุศลในห้วงลึกของจิตใจยิ่งแกร่งกล้ามากขึ้นเท่านั้น

เอาเลยตั้ม มึงเอาเลย ทุบหม้อข้าวเลยไอ้ตั้ม เผด็จศึกเลย!

“จูบสิ รออะไร”

เอ้า น้องบัวสั่งเอาๆเลยเว้ย!

แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้น มีหรือที่โอกาสงามๆแบบนี้ชายตั้มจะยอมปล่อยให้หลุดมือ พอเขาอนุญาต ก็เป็นอีกครั้งที่ชายตั้มจะพุ่งเข้าไปหาแล้วบดริมฝีปากเข้าใส่ เอวบางถูกแขนของชายตั้มรวบเอาไว้ กระชับให้เขาเข้ามาใกล้ตัวเองมากยิ่งขึ้น ในท่าทางเช่นนี้ ทำให้ใบหน้าของบัวอยู่สูงกว่าเล็กน้อย ชายตั้มจึงต้องเงยหน้าเพื่อมอบจูบให้กับอีกฝ่าย

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร ที่รสชาติจูบพวกนั้นเริ่มที่จะรุนแรงขึ้น ไม่ต่างอะไรกับลมหายใจร้อนผ่าวของทั้งคู่

คล้ายกับว่า นาทีนี้ ไฟของพวกขได้ถูกจุดติดขึ้นมาแล้ว

สองมือของบัวโอบกอดพร้อมลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังกว้าง สลับกับเลื่อนขึ้นมาขยุ้มเส้นผมสีเข้ม ส่งเสียงร้องท้วงบ้างในบางครั้งที่เริ่มรู้สึกเจ็บริมฝีปาก เพราะชายตั้มจูบแรงเกินไป

ฝ่ายคนเป็นพี่ก็โดนรุกแรงไม่แพ้กัน บั้นเอวเพรียวไม่อยู่สุกเลย ขยับบดเบียดไปมาจนทำเอาอะไรๆที่มันเคยอยู่สงบนิ่งไปชั่วขณะ เริ่มที่จะกลับมามีปฏิกิริยาอีกครั้ง บวกกับกลิ่นหอมอ่อนๆจากคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ก็ยิ่งชวนให้ชายตั้มเผลอลงแรงบีบเค้นเอวของคนบนตักแรงๆไปทีจนบัวสะดุ้งเล็กน้อย

ทั้งคู่ผละออกจากกันเพียงเสี้ยววินาที สบตากันและกัน ก่อนที่บัวจะค่อยถูกประคองลงนอนราบไปกับเตียง ชายตั้มวางเขาอย่างทะนุถนอม หยิบเอาหมอนมาวางรองให้เสร็จสรรพ รองศีรษะ รองสะโพกให้ พร้อมกับโน้มตัวลงมากดจูบหน้าผากบาง พวงแก้มทั้งสองข้างที่กำลังขึ้นสีระเรื่อ ไล่ลงไปจนถึงหัวเข่ากลมมน สัมผัสอ่อนโยนที่ได้รับช่างแตกต่างกับรูปลักษณ์ภายนอกของชายตั้มเสียเหลือเกิน

บัวเม้มปากแน่น ในยามที่ชายตั้มยืดตัวขึ้นเพื่อถอดเสื้อออกทางศีรษะ ทำเอาเส้นผมยุ่งเหยิงไม่เป้นทรง แต่กลับดูเย้ายวนกว่าเวลาปกติเป็นเท่าตัว ยิ่งพอได้เห็นหน้าท้องแกร่งเป็นลอนสวนกับสีผิวออกแทนของเจ้าตัว ใบหน้าก็คล้ายกับถูกนาบไว้ด้วยเหล็กร้อนแดง ต้องรีบเอียงซบหมอนที่หนุนอยู่ สองมือเผลอขยำที่นอนแน่นขึ้นโดยอัตโนมัติ

ชายตั้ม แม้จะมีชื่อเสียงเรื่องความอับโชคในรักก็จริง หากแต่วาสนาทางด้านหน้าตาและเสน่ห์ของเขาก็ไม่อาจจะเรียกได้ว่าด้อยค่าเลย ไม่เลยสักนิด

บัวนึกโกรธแทนคนที่เคยทอดทิ้งชายคนนี้ไป โกรธคนพวกนั้นที่เคยทำให้ชายตั้มต้องเจ็บช้ำ แต่เมื่อลองนึกๆดูแล้ว ถ้าหากคนพวกนั้นไม่ยอมปล่อยมือจากชายตั้ม ก็คงไม่มีวันที่เขาจะได้โอบกอด และได้รับจูบหวานๆ พร้อมกับสัมผัสอ่อนโยนจากผู้ชายคนนี้เป็นแน่

หลานยายแต้มหน้าเห่อร้อนกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงถอดกางเกง และเสียงฉีกซองถุงยางอนามัยดังขึ้นแข่งกับเสียงฝน หัวใจเต้นแรงและเร็วจนน่ากลัว เม้มปากเล็กน้อยก่อนที่จะใช้สายตาซุกซนลอบมองดูคนที่ยังนั่งอยู่ แทรกกายอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของตัวเอง

ชายตั้มจัดการสวมใส่ถุงยางอนามัยด้วยท่าทางไม่รีบร้อน แม้จะมีมือสั่นบ้างเพราะความตื่นเต้น แต่ยังดีที่เขาสามารถประคองสติเอาไว้ได้แล้วระลึกถึงเนื้อหาที่เคยอ่านผ่านตาในอินเทอร์เน็ต ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรสำหรับการร่วมรักกับร่างกายของคนที่มีอะไรๆเหมือนๆกัน

“จ...เจลด้วย”

“จ๊ะ?”

“ในถุงนั้น”

ชายตั้มหันไปมองตามปลายนิ้วเรียว ถุงพลาสติกจากร้านสะดวกซื้อที่บัวเอ่ยปากขอแวะตั้งแต่ตอนที่กลับมาจากร้านอาหารยังคงวางอยู่ข้างเตียง และเมื่อหยิบมา เขาก็พบกับอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกในคำคืนนี้สองสามชิ้นอยู่ด้านในนั้น นึกๆไปก็ชักจะเริ่มเขินขึ้นมาบ้าง แบบนี้น่ะ มันก็แปลว่าบัวคิดเผื่อถึงเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่ตอนนั้นเลยหรือ?

“อื้อ”

“น้องบัวอย่าน่ารักมากได้ไหม แค่นี้พี่ตั้มก็หลงจะแย่อยู่แล้ว”

คำเยินยอเช่นนั้นทำให้คนที่กำลังนอนหน้าแดงต้องรีบยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาบังหน้าตัวเองเอาไว้ทันที บัวเขินอายจนไม่กล้าจะสบตาอีกคน ตัดสินใจกลบเกลื่อนความเขินด้วยการแย่งเอาขวดเจลหล่อลื่นมา แล้วจัดการมันกับร่างกายของตัวเองอย่างรู้งาน ปลายนิ้วเปียกชื้นไปด้วยเจลเย็นๆแทรกเข้าไปในร่างกาย ขยับขยายและควานมันไปมาเพื่อปรับให้ร่างกายของตนเองพร้อมสำหรับการสอดใส่

มันก็จริงที่บัวเคยผ่านเรื่องเช่นนี้มา เขาเองก็เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย จะมีหลับนอนกันบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก วิธีในการเตรียมตัว วิธีในการรับมือ เขาก็พอจะมีความรู้มาบ้าง ครั้งล่าสุดที่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครก็นานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ยังรักกันกับแฟนเก่าดี เพราะแบบนี้ บัวจึงต้องใช้เวลาสักเล็กน้อยเพื่อเตรียมตัวเองให้พร้อม

กะขนาดของชายตั้มแล้ว...ถ้าหากไม่เตรียมตัวดีๆ ก็อาจจะมีเจ็บได้เหมือนกัน

ฝ่ายลูกชายกำนันสุ่ย นาทีนี้นั่งนิ่งเป็นหินแข็งไปเสียแล้ว ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาเห็นปลายนิ้วเรียวสวยที่เขาชมนักชมหนากำลังแหย่เข้าไปในช่องทางด้านหลังเช่นนี้ บัวเอนหน้าซบหมอนใบโต พร้อมกันกับใช้มือขยับขยายช่องทางให้ตัวเอง ชายตั้มใจสั่นไปหมด ยิ่งได้เห็นเรือนร่างขาวเนียน ได้เห็นหน้าท้องที่หดเกร็งน้อยๆเช่นนั้น ก็อดใจไม่ไหวที่จะส่งมือไปลูบไล้และสัมผัสมัน โดยเฉพาะกับส่วนอ่อนไหวที่อยู่กลางกายของอีกคน

“อื้อ...”

เสียงครางของบัวหลุดออกมาให้ได้ยินเบาๆ ชายตั้มจึงขยับมือของตัวเองอีกครั้งเพื่อช่วยปรนเปรอให้ สลับกับใช้มืออีกข้างในการลูบไล้ร่างกายไปมาเบาๆ

“พ..พี่ตั้ม”

“จ๊ะ?”

“เอาเข้ามาได้ อื้อ แล้ว”

“น้องบัวแน่ใจนะ”

“อืม”

“น้องบัว”

“...”

“พี่ตั้มรักน้องบัวมากๆนะ รู้ใช่ไหม”

“...”

“ถ้าเกิดน้องบัวไม่ไหว รู้สึกว่ามันฝืนตัวเองเกินไป หรือไม่ชอบอะไรยังไง น้องบัวบอกพี่ได้ทันทีเลยนะ”

“อื้อ”

“พี่ตั้มจะทำให้ดีที่สุดนะ ขอบคุณที่น้องบัววางใจ”

ชายตั้มเอ่ย ก่อนที่จะโน้มตัวลงไปหอมแก้มทั้งสองข้างของคนที่ยังนอนอยู่ ค่อยดึงมือออกจากช่องทางนั้นเบาๆ สองแขนเท้าลงกับเตียง จ้องมองใบหน้าที่แดงก่ำของคนใต้ร่างอยู่อย่างนั้นด้วยความหลงใหล

“อ้ะ!” บัวสะดุ้งร้องออกมาเมื่อชายตั้มเริ่มส่งผ่านร่างกายของตนเองเข้ามา สองมือที่กำผ้าปูที่นอนยิ่งกำแน่นกว่าเดิมจนมือขึ้นข้อขาวไปหมด เขาหลับตาปี๋ พยายามที่จะผ่อนลมหายใจเพื่อคลายอาการเกร็งของร่างกาย

“ไหวไหมน้องบัว”

“อื้อ” บัวพยักหน้าตอบกลับ รับรู้ว่าชายตั้มกำลังก้มลงมาจูบตามกรอบหน้าและซอกคอของตนเอง มือข้างหนึ่งของชายตั้มจับเอวเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนมาลูบศีรษะกันคล้ายต้องการจะปลอบประโลม ท่อนล่างค่อยดันเข้ามาเรื่อยๆ บัวไม่รู้แล้วว่าความลึกของมันเข้าไปจนถึงไหน เขาทำได้เพียงนอนหลับตาปี๋ กำมือแน่นเช่นนี้ก็เท่านั้น

“อ้ะ!

กว่าที่จะเชื่อมร่างกายเข้าหากันอย่างเสร็จสมบูรณ์ก็ใช้เวลาไปสักพัก บัวค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง มองดูร่างกายใหญ่โตของชายตั้มที่ยังคงคร่อมทับเหนือร่างของตนเอง ชายตั้มนาทีนี้ช่างดูน่าหลงใหลเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาได้ เขาดูร้อนแรงกว่าปกติเป็นเท่าตัวเลยด้วยซ้ำ สองแขนแกร่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเช่นเดียวกันกับแผ่นหลังกว้าง บัวค่อยเอียงใบหน้าซบลงกับท่อนแขนที่ยังค้ำยันอยู่ข้างตัวเอง ใช้ริมฝีปากประทับรอยจูบเนิบๆเอาไว้ แล้วจึงอ้าปากเพื่อส่งลิ้นร้อนชื้นเลียตามแนวท่อนแขนนั้นเบาๆ

“อื้อ! อ้ะ อ้ะ!

จากตอนแรกที่พยายามจะกลั้นเสียงคราง กลับกลายเป็นว่าพออีกคนเริ่มที่จะเคลื่อนขยับ บัวก็เผลอสะดุ้งร้องออกมาอย่างเสียไม่ได้ อายก็อายที่จะต้องส่งเสียงเช่นนั้นให้ชายตั้มได้ยิน แต่ดูเหมือนเขาคนนั้นจะพึงพอใจไม่น้อยที่ได้ยินเสียงหวานระรื่นหูดังขึ้นด้วยน้ำมือตัวเอง ชายตั้มใช้สองมือเลื่อนมาจับประคองเอวบาง พยายามที่จะขยับตัวอย่างเนิบนาบเป็นจังหวะในช่วงแรก กังวลว่าจะทำอีกคนเจ็บ แต่พอเห็นว่าบัวไม่ว่า ไม่ท้วงอะไร จากความเนิบนาบก็ค่อยไต่ระดับเร็วขึ้น

“อื้อ!

ภายในช่างร้อนรุ่มและรัดแน่นเสียจนชายตั้มแทบจะเสียสติไปหลายต่อหลายครั้ง หน้าท้องแบนราบหดเกร็งเป็นระยะ สองมือลูบตามบั้นเอว ไล่ลงมาจนถึงสะโพก เผลอลงแรงบีบขยำเพียงนิดก็ขึ้นรอยมือเสียแล้ว

“น้องบัว เจ็บไหม”

“อ้ะ อ้ะ”

“ตอบพี่ตั้มก่อนค่ะ น้องบัวเจ็บหรือเปล่า”

บัวเลื่อนมือขึ้นมาลูบหน้าท้องตัวเอง วางมันเอาไว้อย่างนั้น ก่อนที่จะต้องลืมตาขึ้นมองคนที่ยังอยู่เหนือร่างตัวเอง เมื่อชายตั้มเลือกที่จะยื่นมือทั้งสองข้างมาสอดและกอบกุมฝ่ามือคู่สวยทั้งสองข้างของบัวเอาไว้ ยกมันขึ้นจรดริมฝีปากเพียงนิด สัมผัสอ่อนหวานและอ่อนโยนที่ได้รับช่างชวนให้ใจสั่นได้อย่างง่ายดาย

“พี่ตั้มรักน้องบัวมากๆนะ”

“อ้ะ อ้ะ ร...อื้อ รู้แล้ว”

“น้องบัวบอกรักพี่ตั้มสักครั้งให้ชื่นใจได้ไหม”

“อื้อ!

“ได้ไหมคะคนดี”

บัวหน้าเห่อร้อนไปหมด ทำท่าจะดื้อดึงไม่ยอมพูด เม้มปากคล้ายอยากจะกลั้นเสียงคราง ชายตั้มแทนที่จะเห็นใจกันก็กลับขยับเอวเร็วขึ้น กระทั่งมันเข้ามาลึกกว่าเมื่อครู่นี้ บัวนอนบิดเร่าไปทั้งตัว ชายตั้มกระแทกเข้ามาทีก็ทำเอารู้สึกจุกไปหมด ก่อนที่จะต้องสั่นไปทั้งตัวเมื่อรู้สึกว่าส่วนปลายของมันทิ่มเข้าที่บางจุดอย่างจัง

“อ๊ะ อ๊า!

ชายตั้มยิ้มร้ายเมื่อเห็นเรียวขาทั้งสองข้างของบัวสั่นระริกพร้อมทำท่าคล้ายจะหนีบเข้าหากัน สองมือจึงจับมันแยกออกทันที แล้วตัดสินใจที่จะโถมกาย หยัดเอวเข้าใส่ เพื่อบดขยี้จุดดังกล่าวให้ถี่รัวกว่าเดิม กระทั่งใบหน้าสวยเริ่มเบ้ น้ำตาคลอจนเต็มหน่วยตา ก่อนที่มันจะรินไหลลงมาตามข้างแก้ม  สองมือที่เคยสอดกุม กลับถูกชายตั้มรวบเอาไว้ จับมันยึดไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนมาช่วยชักรูดส่วนอ่อนไหวที่กำลังเปียกชื้นลื่นมือ โดนรุกล้ำทั้งด้านหน้าด้านหลังในเวลาเดียวกันเช่นนี้ บัวก็ยิ่งสะอื้นไห้ออกมาเพราะทำตัวไม่ถูก

“อื้อ! พ..พี่ตั้ม อึก เร็ว เร็วไป ช้าๆ อ๊า! ช้า...ชะ..”

พอชายตั้มเริ่มที่จะมัวเมาไปกับแรงอารมณ์เข้าหน่อยก็เผลอปล่อยตัวเองไปตามสัญชาตญาณ หยัดเอวใส่ถี่รัวโดยไม่ทันได้กะแรง บัวหน้าเบี้ยวไปหมด ต้องรีบเอ่ยท้วงเพราะรู้สึกว่ามันเข้าไปลึกเกินไปจนจุก สองขารังแต่จะหนีบเข้าหากัน ใบหน้าแดงก่ำเชิดขึ้นในยามที่รู้สึกเสียวไปหมดจนทำตัวไม่ถูก ลำคอสวยระหงกลายเป็นพื้นที่ฝากฝังร่องรอยจากริมฝีปากของชายตั้ม ที่ตอนนี้ทั้งดูดดึง ทั้งขบกัดอย่างแรงจนมันขึ้นรอยเต็มไปหมด

“อ้ะ อ้ะ! พี่ตั้ม พี่ตั้ม”

ยิ่งได้ยินเสียงหวานร้องเรียกชื่อตัวเองข้างหู มีหรือที่ชายตั้มจะอดทนไหว ไม่ยอมที่จะขยับช้าลง ซ้ำยังเอาแต่ใจโดยการจับสองขาแยกออกกว้าง แทรกตัวเองเข้าไปให้แนบชิดอีกคนมากขึ้น กระทั่งวินาทีต่อมา บัวก็ไม่อาจจะทนรับสัมผัสอันร้อนแรงพวกนั้นได้ไหว ของเหลวมากมายปะทุออกมาจากส่วนปลายของแหก่นกายเล็ก มันสั่นระริกอย่างน่าเอ็นดูเช่นเดียวกันกับร่างกายของบัวในตอนนี้ เสียงหอบหายใจของบัวดังลั่นแข่งกับเสียงฝน ทั่วทั้งร่างชื้นเหงื่อไปหมด แต่ถึงอย่างนั้น กลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำที่ยังติดบนผิวกายก็ยังคงอยู่ ชายตั้มยอมที่จะหยุดขยับเอวแล้วก้มหน้าลงไปสูดดมกลิ่นหอมที่ยังอยู่บนเนื้อตัวอีกคน

เขาหลงใหลในทุกส่วนของบัว ไม่มีตรงไหนเลยที่ชายตั้มไม่ชอบ มันงดงาม และไร้ที่ติไปหมด

“น้องบัว”

“แฮ่ก...”

“พี่ตั้มทำแรงไปหรือเปล่า”

ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือไง!

บัวตวัดตามองดูคนที่กล้าเอ่ยถามประโยคนั้น ทั้งๆที่เมื่อครู่นี้เพิ่งจะบดขยี้ร่างกายเขาอย่างแรง บอกให้เบาลงก็ไม่ยอมฟัง ก่อนที่จะต้องเม้มปากแน่นเมื่อรู้สึกว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในร่างกายยังคงพองตัว และถูกผนังด้านในบีบรัดเอาไว้อย่างแนบแน่น ซ้ำยังเต้นตอดตุบๆจนเริ่มรู้สึกเขินอาย ชายตั้มไม่มีวี่แววว่าจะใกล้ถึงฝั่งฝันเลยด้วยซ้ำ

บัวนอนหน้าแดง ชายตั้มยิ่งเห็นก็ยิ่งเอ็นดู อดใจไม่ไหวจะโน้มตัวลงไปมอบจูบหนักๆให้เป็นรางวัล ก่อนจะผละออก แล้วตัดสินใจที่จะพลิกร่างนั้นให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนตัวเอง พลิกเอนกายนอนราบไปกับเตียงแทนที่ ปล่อยให้บัวนั่งหน้าเหวออยู่บนตัว สองมือสวยรีบผวายันหน้าท้องแกร่งเอาไว้ทันที บัวเบ้หน้าน้อยๆ ด้วยท่าทางนี้มันยิ่งเข้ามาลึกกว่าเดิม ชายตั้มแสร้งกระแทกเอวสวนขึ้นไปที คนด้านบนก็สะดุ้งร้องสุดตัวแล้วรีบตีมือลงมาอย่างไม่เบาแรงนัก

น้อยครั้งที่ชายตั้มจะเห็นบัวมีท่าทางฟึดฟัด พอได้เห็นแล้วก็รู้สึกเอ็นดูอยู่ไม่น้อย

“อย่าเพิ่งขยับได้ไหม!

“จ้ะ พี่ตั้มเชื่อฟังเมียทุกอย่าง”

“ม...ไม่”

“ไม่อะไร”

“โอ้ย...ฮื่อ”

“ไม่อะไรหรือน้องบัว?”

“อย่า...เรียกแบบนั้น”

“แล้วทำไมพี่ตั้มจะเรียกไม่ได้”

“อื้อ!

“ต้องอีกกี่ท่า น้องบัวถึงจะให้พี่ตั้มเรียกได้”

“อย...อ้ะ...อย่าเพิ่ง ขยับ อึ้ก!

“ตอบเร็วค่ะน้องบัว เมื่อไรจะเรียกน้องบัวว่าเมียได้”

“พี่ตั้ม”

“ขาทูนหัว”

“อื้อ!

“พี่ตั้มยอมน้องบัวขนาดนี้แล้ว มีบ้านให้บ้าน มีรถให้รถ มีตัวให้ตัว ใจคอเรียกว่าเมียแค่นี้น้องบัวจะใจร้ายไม่ให้เรียกเลยหรือไง”

“บ..บอกว่าอย่าเพิ่งขยับ!

“เจ็บหรือ?”

“อ้ะ!

“น้องบัวนะน้องบัว”

“...อะ...”

“งั้นพี่ตั้มไม่หยุดง่ายๆหรอกนะ”

“...”

“จนกว่าจะยอมให้พี่ตั้มเรียกว่าเมีย...คืนนี้อย่าคิดว่าพี่ตั้มจะหยุดให้ง่ายๆเลย”

บัวเบิกตากว้าง ก่อนที่จะต้องสั่นไปทั้งตัวอีกครั้ง

โอ้ย

มีผัวผิดคิดจนตัวตายจริงๆครั้งนี้

 

TBC.

#ชายตั้ม


[NC] Special story #โอ๊ยเจ๋ง 6

 [NC] Special story #โอ๊ยเจ๋ง 6 **ต่อจากเนื้อหาในเว็บหลัก** “นายชอบฉันจริงๆ หรือเปล่า” เจ๋งดึงสายตากลับมาจ้องหน้าฟูยุอีกครั้ง ไฟในบ้านเปิดเอ...