[NC] เอาพี่ไหมมาโนช | เอาครั้งที่ยี่สิบแปด : ผู้ชายฉายแวว เจ้าชู้รู้แกวเหมือนดั่งแมวจ้องปลา (100%)
28
˚ ⋆
“อ้าขาออกอีกนิด”
“ดะ..เดี๋ยวก่อนนะครับคุณหนู
แบบนี้นี่มัน...”
“เราบอกให้ทำอะไรก็ทำตามเถอะน่ามาโนช!”
“ไม่เอาแล้วได้ไหมครับ”
“ก้มลงไปๆ”
มาโนชเม้มปากแน่น ในใจสั่นระรัวไปหมดด้วยความรู้สึกกระดากอาย
ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเพียงแค่การเข้ามาเก็บของในห้องของคุณหนูคนเล็กจะนำพาให้เขามาจนถึงจุดนี้ได้
ใครมันจะไปรู้ว่าในห้องของเกี้ยมอี๋มีอะไรแปลกประหลาดถูกซุกเอาไว้เยอะแยะขนาดนี้
ต้องโทษความอยากรู้อยากเห็นของเขาเองนั่นแหละที่พาเตลิดมาไกลถึงขั้นนี้
แขนทั้งสองข้างเท้าลงกับที่นอนนุ่ม
ข้อมือขาวซีดถูกปลอกหนังที่มีโซ่สีเงินคล้องเชื่อมกันเอาไว้ โดยมีมือบางของคุณหนูคอยกดแผ่นหลังไม่ให้เขาหนีไปไหนได้
เกี้ยมอี้ลูบไปมาอยู่อย่างนั้น สัมผัสนุ่มนิ่มจากฝ่ามือข้างที่เขาคอยถนอมมาอยู่ตลอดไล้วนเรื่อยๆ
จนในที่สุดก็ไปวางแปะอยู่ตรงบั้นท้าย พอเขาสะดุ้งทีอีกฝ่ายก็จิ้ปากแล้วตีมือลงมาอย่างไม่เบาแรงนัก
“อยู่เฉยๆ เอาสะโพกขึ้นอีก”
“คุณหนู”
“อ้าขาออก แล้วเอาสะโพกขึ้น
ไม่อย่างนั้นถ้าเอาใส่แล้วมันเจ็บเราก็ช่วยไม่ได้นะมาโนช”
เกี้ยมอี๋ดุเขาเสียงเขียว ก่อนที่จะช่วยจับแยกช่วงล่างที่เปล่าเปลือยออกทีละนิด
มาโนชรู้สึกอาบไปหมดจนต้องซุกหน้าลงกับที่นอนนุ่ม มองลอดตัวไปก็เห็นมือบางกำลังง่วนอยู่กับแท่งซิลิโคนรูปร่างคุ้นตาในมือ
อีกฝ่ายบีบราดเจลจนทั่วมัน เช่นเดียวกันกับป้ายบางส่วนลงบนช่องทางด้านหลัง
เจลเย็นๆยิ่งทำเอาสติอันน้อยนิดของพ่อบ้านหนุ่มแตกกระเจิงมากกว่าเดิมขึ้นไปอีก
“จะเอาเข้าไปแล้วนะ”
“อื้อ!”
เกี้ยมอี๋แลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยความนึกสนุกในยามที่ค่อยๆจ่อส่วนปลายของเจ้าแท่งซิลิโคนในมือเข้าไปในร่างกายของพี่เลี้ยงคนโปรดช้าๆ มาโนชเกร็งไปหมดทั้งตัวจนเขาต้องคอยลูบ
ต้องคอยปลอบเบาๆ เห็นท่าทีอ่อนไหวของอีกฝ่ายก็นึกเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมกิมเล้งถึงได้หลงหัวปักหัวปำขนาดนั้น
มองเผินๆกิมเล้งอาจจะดูเป็นชายฉกรรจ์พูดจาบุ่มบ่ามห้าวหาญ
นิสัยอันธพาลเกินใคร ทว่าลึกๆแล้วอีกฝ่ายก็มีจุดอ่อนเป็นของสวยๆงามๆเช่นนี้
ยิ่งมาโนชทั้งไร้เดียงสา ทั้งหัวอ่อนมากเท่าไร กิมเล้งก็ยิ่งดูเหมือนจะคลั่งในตัวอีกฝ่ายได้มากขึ้นเท่านั้น
ท่าทีสะดุ้งน้อยๆยามที่มือของเขาแตะลงไปไม่ว่าจะส่วนไหนของร่างกายแบบนี้ช่างน่าเอ็นดูเสียจริงๆ
วันนี้เป็นวันที่เกี้ยมอี๋ตัดสินใจจะหยุดอยู่ที่บ้าน
ปล่อยให้พี่ชายของตนเองออกไปทำงานที่ค้างเอาไว้หลังจากที่นอนป่วยมาได้สักพักใหญ่ๆ
นอนเล่นนั่งเล่นอยู่อย่างนั้นด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย จนถึงเวลาที่พี่เลี้ยงหนุ่มเข้ามาทำความสะอาดห้องแล้วค้นเจอสิ่งที่เขาซุกซ่อนเอาไว้
ความรู้สึกสนุกที่อยากจะลองมอบประสบการณ์ใหม่ๆให้กับพี่เลี้ยงคนสนิทจึงบังเกิดขึ้นทันที
“นี่ถ้าวันไหนมาโนชอยากลองมาโนชก็มายืมเราได้นะ
หรือจะเอาไปใช้กับกิมเล้งก็ได้”
“คุณหนู พอเถอะ อื้อ!”
เกี้ยมอี๋ทำทีไม่สนใจแล้วค่อยๆดันแท่งซิลิโคนเข้าไปให้ลึกมากขึ้น
เพียงเท่านั้นพี่เลี้ยงคนโปรดก็ต้องซุกหน้าลงกับที่นอนต่อเหมือนเดิม ต้นขาบางที่กำลังค้ำยันตัวเอาไว้ถึงกับสั่นระริก
แต่ยังไม่ทันที่เกี้ยมอี๋จะได้ขยับมือไปมากกว่านั้น จู่ๆบานประตูห้องก็เกิดเสียงดังจนเขาสะดุ้งตกใจอย่างแรง
มือที่จับของเล่นอยู่ถึงกับปล่อยออกเองอัตโนมัติ สะโพกของคุณพี่เลี้ยงจึงทรุดฮวบลงไปทันที
เกี้ยมอี๋หันไปมองดูผู้ที่เพิ่งจะเข้ามาใหม่ด้วยความรู้สึกตกใจ
ต...ตายแล้ว
สมชายกับกิมเล้งมานี่ได้ยังไง! ไหนบอกจะกลับค่ำๆนู่น!
คนริเริ่มความคิดนี้นั่งหน้าซีด
ส่วนคนที่ตกเป็นผู้ถูกกลั่นแกล้งก็นอนขดอยู่อย่างนั้น เพียงเสี้ยววินาทีคุณชายคนโตก็ถอดสูทตัวนอกออกแล้วเดินหน้าตึงเข้ามาทันที
ก่อนจะใช้เสื้อตัวนั้นคลุมร่างของพี่เลี้ยงหนุ่มแล้วพาออกไปจากห้องทันที
ทิ้งให้คนที่กำลังแสบซนได้ที่ให้เผชิญหน้ากับบทลงโทษจากแฟนหนุ่มของตัวเองบ้าง
ส่วนพี่เลี้ยงหนุ่มคนดังกล่าวก็เม้มปากแน่น
รีบดึงเสื้อมาปิดหน้าปิดตาตัวเอง เข้ารู้สึกได้เลยว่าตอนนี้กิมเล้งอารมณ์ขุ่นมัวขนาดไหน
อีกฝ่ายเอาแต่อุ้มเข้าโดยไม่พูดไม่จาอะไรออกมาสักคำ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ถูกวางลงบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่แสนจะคุ้นเคยเสียแล้ว
“พี่...คือ...คือฉันอธิบายได้นะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็อธิบายมา”
น้ำเสียงกึ่งดุดังขึ้นไม่ไกล กิมเล้งยืนจ้องหน้าเขานิ่ง
มาโนชจึงค่อยๆยันตัวขึ้นนั่งพับเพียบ พลันก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ยังคงอยู่ในร่างกาย
เขาหน้าซีดเผือกทันที ยิ่งเห็นหน้าของกิมเล้งในตอนนี้ก็นึกอยากจะร้องไห้ออกมาเสียนี่
โอ้ย
ไม่น่ายอมให้คุณหนูสอนอะไรพิเรนทร์ๆให้เลย!
ไม่น่าเลยมาโนช!
“ฉันเข้าไปเก็บของในห้องคุณหนู...แล้ว
ก็เลยไปเจอพวกนี้...” มาโนชละล่ำละลักเอ่ยออกมาเสียงสั่น
พร้อมชูสิ่งที่กำลังรั้งข้อมือของตัวเองขึ้นช้าๆ เขาพูดด้วยความสัตย์จริงเพื่อหวังว่าจะให้อีกฝ่ายหายโกรธกันมาบ้าง
สักนิดก็ยังดี
“ฉันก็แค่สงสัย คุณหนูเขาก็เลย...”
“เกี้ยมอี๋มันสอนมึงใช้หรือยังไง”
“จ้ะ...”
“กูปล่อยมึงเอาไว้กับเกี้ยมอี๋ไม่ได้เลยใช่ไหม
มันเอาอะไรยัดใส่หัวมึงบ้างเนี่ย เฮ้อ”
ไม่ได้ยัดใส่แค่หัวหรอกพี่
ยัดใส่ตัวด้วย
“มาโนชนะมาโนช
ก็รู้อยู่ว่าเกี้ยมอี๋มันดื้อผิดมนุษย์ขนาดไหน มึงก็ไปยอมมันเสียทุกอย่าง”
“อื้อ!”
ยามที่เสื้อสูทถูกดึงออกพร้อมกันกับการที่กิมเล้งขยับเข้าไปช่วยพยุงอีกฝ่ายจึงทำให้มาโนชเผลอหลุดร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้ในตอนที่แท่งในร่างกายเกิดการเคลื่อนขยับเล็กน้อย
ทั้งคู่ถึงกับแข็งทื่อ มาโนชเหลือบมองดูเสี่ยวหน้าของเสี่ยหนุ่มที่ดูจะตกใจไม่ต่างกัน
สายตาคมหลุบลงต่ำ ก่อนจะจับตัวเขาเอียงเล็กน้อย จึงเผยให้เห็นว่าตอนนี้ร่างกายของเขามีอะไรถูกสอดใส่เอาไว้อยู่
ใบหน้าที่เคยเรียบตึงบัดนี้ยิ่งฉายชัดกว่าเดิมว่าไม่สบอารมณ์ขนาดไหนที่เห็นแฟนของตัวเองกำลังถูกสอนให้ทำอะไรพิเรนทร์ๆเช่นนี้
เมื่อครู่นี้ที่เข้าไปในห้อง
แค่เห็นว่าคนของตัวเองนอนเปล่าเปลือยแบบนั้นเขาก็หวงจนหน้ามืด
รีบถอดเสื้ออกแล้วเอาไปคลุมออกมาทันทีโดยที่ไม่ทันจะได้สังเกตความผิดปกติอะไร
ครั้นพอได้มาเห็นสิ่งที่เกี้ยมอี๋สอนคนรักของตัวเองให้รู้จักกับอะไรแบบนี้ก็นึกอยากจะวิ่งไปตีก้นน้องคนเล็กของตัวเองเสียเหลือเกิน
แต่คาดว่านั่นคงไม่จำเป็นสักเท่าไรเมื่อตอนนี้สมชายเองก็คงจะทำหน้าที่นั้นแทนเขาไปแล้ว
เพราะฉะนั้น
สิ่งที่เขาควรจะสนใจ นั่นก็คือการลงโทษคนของตัวเองนี่แหละ
“พ...พี่กิมเล้ง”
“...”
“ฮื่อ ฉันขอโทษ
ฉันก็แค่อยากรู้เท่านั้นเอง”
“คุกเข่า”
“หะ”
“คุกเข่าเดี๋ยวนี้”
มาโนชเอ๋อไปเล็กน้อยยามที่ถูกอีกฝ่ายสั่งมาแบบนั้น
เขาพยักหน้าตอบรับอย่างยอมจำนน ก่อนที่จะค่อยๆเปลี่ยนท่านั่งตามที่อีกคนสั่ง
ยามที่แท่งซิลิโคนนั้นกลับมาตั้งตรงอีกครั้ง
มันจึงสามารถแทรกเข้ามาในช่องทางด้านหลังไปลึกมากกว่าเดิมจนมาโนชต้องรีบยกมือปิดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเองในบางจังหวะ
ความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นไปทั่วตัว มันอึดอัดไปหมดยามที่ต้องมานั่งในท่านี้ ดวงตาคู่สวยค่อยๆหันกลับไปมองดูเสี่ยหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกล
อีกฝ่ายกอดอก ทำหน้านิ่งมองเขาอยู่อย่างนั้น
“ขยับ”
“หา”
“สั่งอะไรก็ทำอย่างนั้น”
ยามที่น้ำเสียงกึ่งบังคับดังขึ้นเหนือหัว
มีหรือที่มาโนชจะปฏิเสธได้ ท้ายที่สุดก็ต้องยอมทำตาม
มือทั้งสองข้างค่อยๆวางลงบนที่นอนตรงหน้า เสียงโซ่ดังผะแผ่วยามที่เขาขยับมัน
มาโนชสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะตั้งตัวตรงๆ
แล้วจึงทำการขยับสะโพกของตัวเองขึ้นลงช้าๆ
“อ้ะ!”
“ครางดังๆ”
ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าพี่กิมเล้งด้วยเนี่ย
โอ้ยยยย
“อื้อ!”
มาโนชกำมือแน่นก่อนจะขยับสะโพกขึ้นลงช้าๆ
อาศัยความนุ่มของเตียงเป็นตัวช่วยทุ่นแรง ทุกๆครั้งในตอนที่เขากดตัวลงไป
เจ้าแท่งซิลิโคนนั้นก็จะขยับเข้ามาลึกกว่าเดิมจนได้สะดุ้งร้องหลายต่อหลายครั้ง
มาโนชหลุบตามองต่ำด้วยความรู้สึกเขินอาย
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาทำอะไรน่าอายเช่นนี้ต่อหน้าคนรัก
ยิ่งเห็นอวัยวะกลางลำตัวค่อนๆชูชันขึ้นมาแบบนั้นเขาก็แทบจะไม่กล้าเงยหน้าเลยทีเดียว
สะโพกบางเคลื่อนที่ขึ้นลงอยู่อย่างนั้นด้วยจังหวะเชื่องช้า
เรียกเสียงครางหวิวผะแผ่วดังขึ้นแข่งกับเสียงโซ่สีเงินเส้นบาง
ภาพของคนที่กำลังนั่งคุกเข่าก้มหน้าก้มตาขย่มมันอยู่ในสายตาของกิมเล้งทั้งหมด
ท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ขยับเข้าไปใกล้แล้วจัดการจับตัวร่างของพี่เลี้ยงหนุ่มให้นอนคว่ำหน้า
พาดลงบนหน้าตักของเขาทันที มาโนชสะดุ้งด้วยความตกใจที่จู่ๆก็ถูกจับนอนตักเช่นนี้
สายตาคมลอบมองดูทั่วตัวของคุณพ่อบ้าน
ผิวขาวเหลืองเริ่มขึ้นสีชมพูระเรื่อประปราย ใบหน้าอีกฝ่ายชื้นเหงื่อแถมยังแดงก่ำ
ยิ่งการที่มาโนชนอนคว่ำให้แบบนี้
เขาจึงได้เห็นว่าอะไรกันแน่ที่กำลังถูกแช่คาเอาไว้ในร่างกายของอีกคน
เพี้ยะ!
“โอ้ย!”
ในตอนที่ฝ่ามือข้างหนึ่งของกิมเล้งฟาดลงบนก้อนเนื้อนุ่มนิ่ม
เสียงร้องของมาโนชก็ดังขึ้นทันที เขาเอี้ยวตัวหันกลับไปมองเจ้านาย ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไรฝ่ามือข้างนั้นก็ฟาดลงมาอีกครั้งจนมาโนชถึงกับน้ำตารื้น
นี่พี่กิมเล้งโกรธมากขนาดนั้นเลยหรือ
“ดื้อ”
เพี้ยะ!
“ซน”
เพี้ยะ!
“ฮึก...”
เสียงสะอื้นที่ดังขึ้นเบาๆทำให้กิมเล้งเหลือบตามอง
เขาถึงได้เห็นใบหน้าแดงก่ำของคนที่นอนอยู่ มาโนชเม้มปากแน่นพร้อมจับแขนเขาเอาไว้
ดวงตาคู่สวยฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตา กิมเล้งจึงค่อยๆก้มดูร่องรอยสีชมพูจางๆที่เกิดขึ้นบนผิวเนื้ออีกฝ่าย
ก่อนจะลูบไล้มันไปมาเบาๆเพื่อบรรเทาอาการแสบจากการปะทะเมื่อครู่
มาโนชรู้สึกโล่งใจขึ้นมาในยามที่อีกฝ่ายแสดงท่าทีอ่อนลงเช่นนั้น
แต่ยังไม่ทันไร จู่ๆสะโพกของเขาก็ถูกจับขึ้นสูง
กิมเล้งทำการจับเข้าที่ส่วนปลายของแท่งซิลิโคนที่โผล่ออกมา
แล้วขยับมันเข้าออกทันที พี่เลี้ยงหนุ่มจึงดิ้นตาเหลือก ซุกหน้าลงกับที่นอนนุ่มแล้วครางลั่นทันที
เพราะการที่กิมเล้งกระทำมันในครั้งนี้ เป็นการขยับออกอย่างรัวเร็ว แตกต่างจากที่เขาทำเองโดยอัตโนมัติ
ในทุกครั้งที่แท่งเย็นชืดนั่นเข้ามาลึก
มือของมาโนชก็ยิ่งออกแรงดันร่างของกิมเล้งเอาไว้ทันที
“ฮึก...อ้ะ อ้ะ!”
กิมเล้งไม่พูดอะไร
นั่งขยับแท่งในมือรัวๆอยู่อย่างนั้น เขากระทุ้งมันเข้าไปลึกๆ สลับกับควานไปทั่วจนทำเอาพี่เลี้ยงคนโปรดนอนตัวสั่นระริก
เสียงครางดังอู้อี้เพราะอีกฝ่ายซุกหน้าลงกับที่นอน แผ่นหลังของมาโนชเริ่มชื้นเหงื่อและเกร็งจนเห็นแนวกระดูกสันหลัง
ยิ่งเขาดันเจ้าแท่งนี้เข้าไปมากเท่าไรอีกฝ่ายก็ยิ่งดีดดิ้นด้วยความทรมานมากเท่านั้น
สะโพกบางค่อยๆยกขึ้นสูง มองเผินๆก็แอบคล้ายกับแมวบางตัวในเวลาที่ลูบตัวมัน
ยิ่งลูบมากเท่าไหร่ก็ยิ่งยกสะโพกสูงขึ้นเท่านั้น
กิมเล้งขยับมันรัวๆแล้วทำการหยุดมือไปในทันที จึงทำให้พี่เลี้ยงหนุ่มชะงักค้าง
แล้วนอนสะอื้นไห้ฮึกฮักอยู่อย่างนั้น
“ทีหลังอย่าไปเชื่ออะไรเกี้ยมอี๋มันอีก”
“ฮึก...”
“เข้าใจที่พี่พูดไหม”
“เข้าใจจ้ะ”
มาโนชตอบเสียงเบา
รู้สึกได้ถึงแท่งซิลิโคนที่ค่อยๆถูกดึงออก ความรู้สึกโล่งวาบจึงเข้ามาแทนที่
กิมเล้งค่อยๆลูบไปมาตามเนื้อตัวของเขา สลับกับบีบบั้นท้ายเบาๆ มาโนชจึงหันกลับไปมอง และพบว่าอีกฝ่ายกำลังก้มลงจูบเบาๆลงบนนั้น
หัวใจดวงน้อยจึงกลับมาสั่นไหวอย่างรุนแรงอีกครั้งทันที
“ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับไอ้ของเล่นแบบนี้หรอก
ถ้าอยากจะเล่นก็มาหาพี่”
“...”
“พี่สนุกกว่าไอ้นี่เยอะ”
“พี่!
เดี๋ยวก่อน พี่กิมเล้ง! ปล่อยฉัน...อื้อ!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์แปลกๆ
มาโนชก็ร้องออกมาด้วยความตกใจแล้วทำท่าจะดิ้นหนี เขารีบคลานไปยังอีกฝั่งของเตียง
แต่ยังไม่ทันไรก็ถูกเสี่ยหนุ่มคลานตามมาจนได้ แขนแกร่งสอดรัดรอบตัวแล้วทำการเกี่ยวกระหวัด
รัดไม่ให้มาโนชขยับไปไหน จับพลิกหัวพลิกหางราวกับเป็นตุ๊กตา ขาเล็กๆตะเกียกตะกายจะหนี
ดิ้นอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งกิมเล้งสามารถยึดมันเอาไว้ได้ ใบหน้าหล่อซุกลงกับบั้นท้ายแล้วอ้าปากงับก้อนเนื้อตรงหน้าอย่างแรงจนเจ้าของมันสะดุ้งด้วยความตกใจ
มือบางรีบเลื่อนมาดันใบหน้านั้นออกทันที
“พี่!”
“ไม่รอดหรอกมาโนช”
“อื้อ!”
รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับนอนหงาย
อีกฝ่ายตามมาคร่อมทับกันเอาไว้พร้อมก้มตัวลงมามอบจูบอันแสนจะร้อนแรงให้ มือหนาแตะไต่ไปตามตัวจนแทบจะไม่เว้นที่ว่างเอาไว้สักหนแห่ง
มาโนชร้องอืออึง เขาถูกรังแกทั้งด้านบนด้านล่าง เนื้อตัวร้อนผ่าวไปหมดราวกับมีใครเอาไฟมาลน
ริมฝีปากหนาที่กำลังง่วนอยู่ก็เอาแต่รังแกกันไม่หยุดจนท้ายที่สุดเขาก็เผลอเคลิ้มไปกับสัมผัสพวกนั้น
และจูบตอบกลับในบางจังหวะ ยิ่งเป็นการทำให้คนตัวโตพอใจมากขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีก
มือที่เคยออกแรงดันอีกฝ่ายก็แปรเปลี่ยนไปเป็นโอบรอบคล้องคอเอาไว้ เสียงโซ่เส้นบางกระทบกันดังเข้าหูจนนึกรู้สึกอาย
กิมเล้งก้มหน้าฟัดคนใต้ร่างหนักๆจนพอใจแล้วจึงผละออก อีกฝ่ายนอนหน้าแดง อ้าปากหอบหายใจอยู่อย่างนั้น
มุมปากเล็กเริ่มแฉะไปด้วยน้ำลายจากการจูบเมื่อครู่
“รอ”
คนเป็นนายเอ่ยสั่ง
แล้วจึงผละออกไป ปล่อยให้พี่เลี้ยงหนุ่มนอนรอนิ่งๆบนเตียง มาโนชมองตามอีกฝ่าย
มือทั้งสองข้างที่ถูกใส่ปลอกข้อมือหนังถูกยกขึ้นมาวางเอาไว้ระหว่างอก กิมเล้งถอดเสื้อสูทราคาแพงออกเช่นเดียวกันกับเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ
ภายในเวลาไม่กี่วินาทีพวกเขาทั้งคู่ก็เปล่าเปลือยเช่นเดียวกัน
มาโนชหลบตาไปทางอื่นทันทีในยามที่คนเป็นพี่เดินไปหยิบเอาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานออกมา
เสียงซองถุงยางอนามัยถูกฉีกออกยิ่งทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องมากกว่าเดิมเสียอีก
“พ..พี่”
ผ่านไปไม่นานก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเตรียมตัวเสร็จแล้ว
ถึงได้ขยับขึ้นมาบนเตียงกว้างอีกครั้ง มาโนชครางหวือยามที่ขาข้างหนึ่งถูกจับเอาไว้แล้วแยกออกกว้าง
เผยทุกอย่างให้อีกฝ่ายได้เห็นทุกซอกทุกมุม ดวงตาคมฉายแวววาววับในยามที่เห็นช่องทางด้านหลังขมิบถี่รัว
ราวกับจะเรียกร้องอะไรบางอย่างให้เข้าไปแทนที่เจ้าแท่งซิลิโคนเมื่อครู่นี้
เพียงแค่ปลายนิ้วแตะลงบนนั้นแล้วบดขยี้เบาๆ คนที่นอนอยู่ก็ถึงกับดิ้นหนีทันที
“พี่กิมเล้ง อื้อ!”
“อย่าเกร็ง”
“พ..พี่ อ้า!”
มาโนชร้องออกมาเสียงดังในตอนที่กิมเล้งค่อยๆจ่อส่วนปลายเข้าที่ช่องทางด้านหลัง
ก่อนจะดันมันเข้ามาเรื่อยๆ เนื่องจากเขาได้เตรียมตัวเอาไว้ด้วยเจ้าแท่งซิลิโคนนั้นแล้ว
มันจึงไม่ได้ยากอะไรนักที่กิมเล้งจะเข้ามาทำหน้าที่แทน สัมผัสจากผนังด้านในที่เต้นตอดรับตุบๆแบบนั้นทำเอากิมเล้งแทบจะหน้ามืด
เผลอหยักเอวใส่หนักๆจนคนที่นอนอยู่ได้เบ้หน้าออกมาทันที
“อื้อ!
อ้ะ!”
เขาไม่รีรออะไรอีกต่อไป
คว้าเอาขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดบนไหล่แกร่ง ส่วนขาอีกข้างก็ถูกกดจนจมเตียง
ด้วยท่าทางนี้จึงทำให้องศาของการทะลุทะลวงเข้าไปได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
มาโนชสะอื้นไห้ออกมาด้วยความรู้สึกเสียดเสียวไปทั่วท้องน้อย กิมเล้งในตอนนี้ไม่ปราณีกันเสียเลย
พอรู้ว่าเขารับไหวและมีอารมณ์ร่วม อีกฝ่ายก็หยัดเอวเข้าใส่รัวๆจนคนที่นอนอยู่หัวสั่นหัวคลอนไปหมด
เสียงผิวเนื้อดังกระทบกันลั่นห้อง เช่นเดียวกันกับเสียงครางของมาโนช
น่ากลัวว่าถ้าหากมีคนมาแอบฟังตอนนี้ก็คงจะต้องได้อาบไปสามวันเจ็ดวันเลยทีเดียว
แต่นาทีนี้
ใครล่ะจะสนใจเรื่องพวกนั้น
“อ้ะ อ้ะ!”
มาโนชเอียงใบหน้าซุกลงกับที่นอนนิ่มในตอนที่คนใจร้ายกระแทกกายแกร่งเข้ามาลึกๆ
พร้อมกันกับยื่นมือข้างหนึ่งมาบดขยี้ยอดอกจนเขาไปด้สะท้านเฮือกไปหมด
ความรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วร่างทำให้มาโนชน้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
เขาครางสุดเสียง และยิ่งรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อมือหนาเลื่อนไปสัมผัสอวัยวะกลางกายของตัวเอง
กิมเล้งใช้ฝ่ามือที่หยาบกร้านลูบไล้มันไปมา
ก่อนจะเริ่มชักนำและบดขยี้ส่วนปลายจนเขาแทบจะทนไม่ไหวอยู่รอมร่อ
มือทั้งสองข้างที่ถูกโซ่สีเงินตรึงเอาไว้จึงทำท่าจะเลื่อนไปดันมือของอีกฝ่ายออก
ทว่า มาโนชในตอนนี้อ่อนแรงเกินกว่าจะสู้ได้ ท้ายที่สุดก็โดนปัดมือทิ้ง
“พี่กิมเล้ง อื้อ!
อย่า...ฉันจะ..ฮึก”
“จะอะไร”
“อย่าถูแบบนั้น อ๊า!”
มาโนชเลื่อนมือไปปิดหน้าตัวเองในยามที่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างกำลังจะออกมาจากส่วนปลาย
เอวบางบิดเร่าไปมา หน้าท้องขาวนวลหดเกร็งไปหมดจนเห็นเป็นแนวซี่โครงโผล่ขึ้นมา
และท้ายที่สุด ของเหลวบางส่วนก็พุ่งออกมาจากแก่นกายขนาดเล็กน่ารักนั่น
มาโนชกระตุกไปทั้งตัวก่อนจะสะอื้นไห้ฮึกฮัก กิมเล้งจึงค่อยๆหยุดขยับเอวแล้วบีบนวดตามผิวเนื้ออีกคนราวกับจะช่วยปลอบประโลมกัน
“แค่นี้เอง”
แค่นี้เสียที่ไหนล่ะ!
เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!
กิมเล้งพอเห็นคนเหนื่อยอ่อนตวัดตาใส่กันแบบนั้นก็นึกมันเขี้ยว
จึงโน้มตัวลงไปหาแล้วทำการมอบจุมพิตลงบนริมฝีปากสีสดนั่นอีกหลายครั้ง ย้ำอยู่อย่างนั้นจนคนที่นอนอยู่ร้องท้วงขึ้นมาผะแผ่ว
เขาจึงผละออก ก่อนจะลอบมองดูโซ่สีเงินตรงหน้า
“แล้วจะเอาออกยังไง”
“ต้องไปเอากุญแจกับคุณหนูจ้ะ”
“เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”
“คุณหนูใส่ให้ ฉันก็ขัดขืนเขาไม่ได้เหมือนกัน”
“ทีหลังไม่ไปเล่นอะไรแบบนี้กับเกี้ยมอี๋แล้วนะ
เข้าใจไหม ไอ้คนนั้นมันแสบขนาดไหนเราก็รู้ดีนี่”
“อื้อ...”
กิมเล้งพ่นลมหายใจหนักๆ
ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นแท่งซิลิโคนที่ถูกวางทิ้งเอาไว้ไม่ไกล เห็นทั้งขนาดและรูปร่างของมันแล้วก็นึกโมโห
จัดการขว้างทิ้งไปตรงมุมห้องอย่างไม่ใยดี นึกอยากจะเอาไปเผาให้มันสิ้นซาก
อันใหญ่ขนาดนั้นเกี้ยมอี๋มันเอาเข้าตัวมันได้ยังไง!
ไหนจะเอามายัดให้มาโนชอีก กูจะบ้าตาย!
ท้ายที่สุดกิมเล้งก็เลิกสนใจเจ้าของเล่นชิ้นนั้น
แล้วหันกลับมามองร่างของคนที่กำลังนอนหน้าแดงอยู่ ขาข้างหนึ่งที่ยังพาดอยู่บนไหล่สั่นระริก
กิมเล้งจึงเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้แล้วงับน่องขาวๆตรงหน้าไปที พอรู้ตัวว่าเจ้าของมันสะดุ้ง
จึงแลบลิ้นออกมาแล้วเล็มเลียตามความยาวน่องเบาๆ
มาโนชเห็นภาพนั้นก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมา
ดวงตาพร่าเลือนไปชั่วขณะ
สักพักก็รู้สึกได้ว่าช่องทางด้านหลังเผลอกระตุกบีบรัดตัวตนของคนที่ยังแช่ค้างเอาไว้อยู่
จนสัมผัสได้ว่าสิ่งที่อยู่ในตัวนั้นค่อยๆขยายตัวขึ้นมาอีกจนเขาเบ้หน้าด้วยความรู้สึกอึดอัด
กิมเล้งเลื่อนสายตามามองอย่างหยาบโลน ก่อนที่จู่ๆจะจัดการอุ้มให้เขาลอยหวือขึ้นมาจากเตียง
มาโนชร้องครางออกมาบางในบางจังหวะ ยามที่อีกฝ่ายพาเขามาหยุดยืนยังหน้ากระจกบานใหญ่
โดยที่ยังสอดใส่ชิ้นส่วนเอาไว้ในตัวของเขา
“พี่...อื้อ!
พี่กิมเล้ง”
พี่เลี้ยงหนุ่มหน้าร้อนผ่าวไปหมดยามที่ต้องมาเห็นภาพตัวเองจากเงาสะท้อนในกระจกแบบนี้
เขานึกอายเหลือเกินที่จะต้องมาเห็นสภาพทั้งเขาและเจ้านาย
เนื้อตัวของมาโนชแดงก่ำไปหมดทั้งๆที่เดิมทีก็เป็นคนผิวขาวเหลือง กิมเล้งในตอนนี้ก็กวาดสายตามองดูภาพตรงหน้าราวกับพอใจ
ใบหน้าคร้ามคมก้มลงมาหาแล้วแลบลิ้นเลียตามใบหู ไล่ลงมาจนถึงลำคอและท้ายทอยขาว
ก่อนจะฝังคมเขี้ยวเอาไว้เบาๆ พี่เลี้ยงหนุ่มที่ยืนอยู่ถึงกับสั่นไปทั้งตัว
ขาทั้งสองข้างที่คอยรับน้ำหนักก็สั่นระริกไปหมดจนนึกสงสาร แกล้งขยับเอวเข้านิดหน่อยก็เบ้หน้าออกมาทันที
“พี่ ฮึก ฉันไม่ชอบท่านี้”
“เราก็ไม่ชอบสักท่านั่นแหละ”
“อื้อ!
อ้ะ!”
มาโนชผวาจับแขนแกร่งที่โอบรอบเอวตัวเองแน่น
กิมเล้งค่อยๆไต่จังหวะจากช้าเนิบขึ้นมาเรื่อยๆ
ด้วยท่าทางนี้จึงทำให้มันเข้ามาได้ลึกกว่าทุกๆท่าที่ผ่านมา ในทุกครั้งที่แก่นกายภายในตัวเข้ามาจนสุดแล้วถอนออกไป
ก่อนจะเข้ามาใหม่ มาโนชก็รู้สึกเหมือนหัวใจของเขาถูกควักออกมาเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเล่นๆ
อ้าปากส่งเสียงครางดังลั่นห้อง นิ้วมือที่กำแขนแกร่งเอาไว้ก็เผลออกแรงจิกข่วนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
ส่วนปลายที่เคยสงบก็กลับมาชูชันอีกครั้งอย่างง่ายดาย
“ฮึก อ้ะ อ้ะ!”
“อืม มาโนช”
“อ้า!”
“มาโนชของพี่ คนดีของพี่”
เสียงครางต่ำของกิมเล้งดังขึ้นกับการเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงกระเส่าที่สุดแสนจะเซ็กซี่ทำเอาพ่อบ้านหนุ่มหน้าร้อนไปหมด
เขารู้สึกไม่สบายตัวอยู่มากพอสมควร เสียงหน้าขาที่กระทบบั้นท้ายดังแข่งกับเสียงคราง
เช่นเดียวกับเสียงหอบหายใจที่ฟังทีไรก็รู้สึกหวิวไปทั่วทั้งท้องน้อย
มาโนชก้มหน้าลงอย่างคนหมดแรงก่อนที่จะสังเกตเห็นร่างกายของตัวเอง
ของเหลวเริ่มที่จะไหลซึมออกมาและหยดลงบนพื้น เท้าทั้งสองข้างเขย่งเล็กน้อยเพื่อปรับท่าทางให้เขากับคนที่กำลังกอดเอาไว้จากทางด้านหลัง ยิ่งอีกฝ่ายกระแทกกระทั้นเข้ามาแรงเท่าไร
ก็น่ากลัวว่าจะล้มลงไป โชคดีที่แขนของกิมเล้งยังคงรั้งเอวกันเอาไว้อยู่
ไม่อย่างนั้นมาโนชก็คงจะหน้าทิ่มพื้นไปแล้ว
“อือ อา”
“อ้ะ!
พี่...ฮึก พี่กิมเล้ง เบา เบาหน่อย อื้อ!”
ผ่านไปไม่ทันไรก็รู้สึกเหมือนกิมเล้งจะทนไม่ไหวแล้ว
ถึงได้กระหน่ำเอวหยัดเข้าใส่กันย่างหนักหน่วงและถี่รัว จนมาโนชต้องได้น้ำตาไหลออกมา
มือหนาเลื่อนขึ้นมาจับปลายคางของเขาเอาไว้แล้วเลื่อนบังคับให้หันกลับไปรับจูบที่แสนจะดุเดือด
มาโนชสั่นไปทั้งตัว ยิ่งได้ยินเสียงคำรามต่ำที่เริ่มรุนแรงขึ้นเขาก็พอจะรับรู้ได้ว่าอีกไม่นานกิมเล้งก็คงจะถึงฝั่งฝัน
“อื้อ!
พี่ เบา ฉันจะไม่ไหวแล้ว”
“พร้อมกันมาโนช”
“ฮื่อ”
“พร้อมกัน”
มาโนชหลับหูหลับตาครางออกมาอีกครั้งในยามที่แก่นกายขนาดเล็กถูกอุ้งมือหนากอบกุมเอาไว้
ขยับเพียงนิดเดียวเขาก็ผวาเฮือกกระตุกเกร็งไปทั้งตัวแล้วหลั่งของเหลวออกมาจนเปรอะเปื้อนเต็มพื้นไปหมด
เช่นเดียวกันกับคนที่ตะโบมจูบแผ่นหลัง
อีกฝ่ายขบกัดลงบนผิวเนื้อของเขาแรงๆแล้วจึงกระตุกตัว หยัดเอวเข้าใส่หนักๆเป็นครั้งสุดท้าย
เสียงคำรามดังลั่นทั่วห้องแข่งกับเสียงหอบหายใจ พลันแขนแกร่งที่เคยรั้งตัวเอาไว้ก็คลายออกโดยอัตโนมัติ
จนเป็นผลให้คนที่อ่อนแรงอยู่แล้วถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้น เสียงโซ่ที่กระบทบกับพื้นแข็งดังขึ้นมา มาโนชสะอื้นหนักหอบหายใจอยู่อย่างนั้น แขนทั้งสองข้างเท้าลงกับพื้น
เอียงตัวลาดลงไปแล้วเผลอโก่งสะโพกขึ้นให้กับคนด้านหลัง ต้นขาขาวที่ใช้รองรับน้ำหนักถึงกับสั่นระริกไปหมด
มะ..ไม่ไหว
ไม่ไหว มากกว่านี้ไม่ไหวแน่ๆ จะตายแล้ว เหนื่อยจะตายแล้ว
พี่เลี้ยงหนุ่มหลับตาลงหวังว่าจะได้พักหายใจ
แต่ยังไม่ทันที่จะหายเหนื่อยเขาก็รู้สึกได้ว่าใครบางคนกำลังล็อกสะโพกเอาไว้พร้อมแลบลิ้นออกมาแตะลงบนช่องทางด้านหลังที่ยังขมิบถี่รัวอยู่
“อื้อ!
พี่ พอแล้ว พอแล้ว ฉันเหนื่อย”
“พี่ยังลงโทษเราไม่เสร็จเลย”
“ฉันไม่ไหวแล้ว”
“อีกนิดนะ”
“พี่”
“อีกนิดเดียวนะมาโนช”
“...”
พอโดนอีกฝ่ายใช้เสียงอ่อนใส่กันแบบนั้น
มีหรือที่คนขี้ใจอ่อนอย่างมาโนชจะไปไหนรอด
ท้ายที่สุดก็ต้องยอมพยักหน้าส่งไปให้จนได้
“ครั้งเดียวนะ อื้อ!”
“ครั้งเดียวก็ได้”
“อ้า!”
“แต่หลายท่าหน่อยก็แล้วกัน”
จ..เจ้าเล่ห์!
พี่ชายคุณหนูเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าคุณหนูเสียอีก!
.TBC
#เอาพี่ไหมมาโนช